วันจันทร์

แขนสองสีเปลี่ยนทำให้เท่ากันได้







          ผิวแขนคล้ำกว่าลำตัวถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น แต่ก็ต่างจากผิวไหม้อยู่พอสมควร หากคุณออกไปยืนกลางแดดนาน ๆ ผิวก็จะแสบ แดง ไหม้ แต่ถ้าพูดถึงผิวเหลืองอย่างสาวไทยเราแล้ว หากเรารับแดดอยู่เนือง ๆ นานเข้าผิวเราก็เป็นจะ "สีแทน" มากขึ้นจากเมลาโนไซต์ซึ่งผลิตเม็ดสีในผิวหนัง (จะสังเกตได้ว่าคนเผือกไม่มีเมลาโนไซต์ เมื่อเขาเจอแดดผิวจึงไม่เป็น "สีแทน" แต่จะ "ไหม้") นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมแขนกับลำตัวเป็นคนละสีกัน จนบางคนเห็นเป็นรอยแบ่งสีอย่างชัดเจนที่แขนเสื้อ ทั้งที่คุณก็จำได้ว่าไม่ได้ไปอาบแดดตรงไหนมาสักหน่อย ?

          Fast-Fix

  Microdermabrasion

          หรือที่เรารู้จักกันว่าการกรอผิว เป็นการขัดเอาผิวชั้นนอกสุด คือชั้นหนังกำพร้าออกไปโดยใช้ผงครีสตัลหรือเกล็ดอัญมณี แต่คุณไม่ควรจะรู้สึกเจ็บในระหว่างทำทรีตเมนต์ ข้อดีก็คือผิวจะดูใส่ขึ้น แถมรอยเหี่ยวย่นก็จะน้อยลง ข้อเสียคือคุณอาจรู้สึกว่าผิวแห้ง ลอกเป็นขุย จึงต้องมีการใช้มอยสเจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น รวมขั้นตอนแล้วใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที

          ค่าใช้จ่าย 2,000-2,500 บาท/ครั้ง

  Fraxel

          เป็นการปล่อยลำแสงขนาดเล็กจำนวนมากเข้าไปยังใต้ผิวเพื่อให้มีการสร้างเซลล์ ผิวหนังใหม่ ในกรณีของผิวดำคล้ำที่แขนจะอยู่แค่ระดับตื้นเท่านั้น ในขั้นตอนการทำทรีตเมนต์อาจต้องมีการแปะยาชา เซลล์เก่าจะตายและถูกเซลล์ใหม่ผลักให้หลุดออกมาภายใน 1-2 สัปดาห์ จึงกล่าวได้ว่าจะเห็นผิวใสขึ้นหลังจากทำทรีตเมนต์ประมาณ 7-10 วัน แต่หากอยากได้ผลที่ชัดเจน ต้องทำประมาณ 3-5 ทรีตเมนต์ขึ้นไป หลังจากทำเสร็จผิวอาจมีอาการคันแดง ต้องหลบแสงแดด

          ค่าใช้จ่าย 3,000-4,000 บาท/ครั้ง

  IPL

          ไม่ใช่เลเซอร์แต่เป็นแสงที่มีความเข้มสูง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง เหมาะกับการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดความหมองคล้ำ ในขั้นตอนทรีตเมนต์ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชา แต่อาจรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ บ้าง และใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ต่อครั้ง โดยทั่วไปจะเห็นผลชัดเจนภายใน 5 ทรีตเมนต์ อาจมีผลข้างเคียง เช่น เจ็บแสบ บวมแดง ข้อเสียก็คือ ถ้าสีแขนที่ไม่สม่ำเสมอนั้นเกิดจากากรไหม้แดดมาไม่ถึง 2 สัปดาห์ จะไม่สามารถใช้ IPL ได้เพราะอาจจะทำให้ผิวไหม้

          ค่าใช้จ่าย ประมาณ 5,000-8,000 บาท/ครั้ง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

มัดผมแกละน่ารัก ๆ สำหรับคุณผู้หญิงหรือสาวๆ ที่(อยาก) แอ๊บเด็ก


วันนี้ขอนำเสนอ ทรงผม ที่สามารถทำให้คุณผู้หญิง สามารถแอ๊บเด็กได้บ้างอะไรบ้าง นั่นก็คือ ทรงผมแกละ ที่ไม่ใช่มีแค่เด็กที่ทำได้เท่านั้น คุณเองก็สามารถทำผมทรงนี้ได้ค่ะ (ถ้าใจรัก)

          วิธีทำก็ง่ายแสนง่าย เพียงแบ่งผมออกเป็น 2 ข้างเท่า ๆ กัน แล้วก็มัดแกละไว้ ส่วนจะชอบผมแกละแบบมัดสูง หรือแบบมัดต่ำ ก็แล้วแต่คุณเลยค่ะ หรือหากอยากเพิ่มลูกเล่นให้ผมแกละด้วยการถักเปีย หรือมัดหนังยางสีเป็นข้อ ๆ ก็สวยเก๋ได้ตามสะดวกเลยค่ะ

วันพุธ

เคล็ดลับดูแลหน้า ผม ให้สวย พร้อมฝ่าฝน







ในช่วงที่ฝนตกชุกทุกวันแบบนี้ ทำให้คุณผู้หญิง ต้องฝ่าฝนและการจราจรติดขัดกลับบ้านตอนเย็น ดังนั้นมาดูแลตัวเองให้สวยไม่หวั่นหน้าฝนทั้งการแต่งหน้าและดูแลผมกันดีกว่า จะได้ไม่ต้องเจอสภาพหน้าเลอะ ๆ กับผมยุ่ง ๆ ที่เหนียวเหนอะและเสียทรงจนหมดสวย

ใบหน้า

           คุณ อาจต้องพิจารณาในการเลือกชนิดของเมกอัพที่ใช้โดยคำนึงถึงความคงทน และเลือกชนิดที่จะไม่ไหลเปื้อนให้คุณหมดสวยเมื่อเจอฝนการแต่งหน้าจนหนา เตอะนั้นเสี่ยงต่อการที่จะเกิดคราบเลอะเปื้อนได้ง่าย เมกอัพเนื้อบางสีอ่อน ๆ จะปลอดภัยกว่า และควรเพิ่มเกราะป้องกันด้วยเมกอัพสูตรกันน้ำ เช่น รองพื้น หรือมาสคาร่าด้วย

เตรียมผิว

           http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/fashion/48be2683.gifการบำรุงผิว เลือกสกินแคร์ที่มีสารสกัดจากผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว ที่มีวิตามินซีและช่วยให้ผิวของคุณสดชื่น

           http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/fashion/48be2683.gifหลัง ล้างหน้าสะอาดหมดจดแล้ว ลองใช้ก้อนน้ำแข็งห่อผ้าประคบบนผิวหน้า 5-10 นาที เพื่อลดการเกิดเหงื่อ แล้วเมกอัพก็จะติดทนยิ่งข้น อาจใช้โทนเนอร์เช็ดตามด้วยก็ได้สำหรับผู้มีผิวธรรมดาหรือผิวแห้ง เพื่อช่วยปิดรูขุมขน

           http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/fashion/48be2683.gifควรเลือกใช้มอยสเจอไรเซอร์ที่มีเบสหรือสารประกอบหลักเป็นน้ำในช่วงนี้ เพื่อไม่ให้ผิวมันเยิ้มจนเกิดสิวจากผิวขาดน้ำและมีเหงื่อ

เมกอัพ

           http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/fashion/48be2683.gifสี อายแชโดว์ที่เหมาะจะแต่งในหน้าฝน คืออายแชโดว์เนื้อครีมสีน้ำตาล ส้ม เบจ ครีม ชมพู หรือสีพาสเทล ที่ทำให้ดวงตาดูสดใส กรีดตาด้วย อายไลเนอร์ซึ่งควรเป็นแบบลิขวัดและกันน้ำ และเลี่ยงดินสอเขียนตาสีดำ ๆ เป็นเขม่าที่จะทำให้คุณเป็นแพนด้าทันทีเมื่อต้องเจอฝน และปัดมาสคาร่าสูตรกันน้ำ

           http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/fashion/48be2683.gifลิปสติกเนื้อแมตต์นุ่ม ๆ นั้นเหมาะกับหน้าฝน เพราะมันจะติดทนนาน และอาจแตะกลอสทับลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความแวววาวและดูสดชื่นขึ้น

           http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/fashion/48be2683.gifเลี่ยง การใช้รองพื้นก็จะดี เพื่อไม่ให้ผิวดูมันเยิ้ม และดูเป็นคราบ แต่ถ้าต้องใช้ ควรเลือกรองพื้นเนื้อซิลิโคนที่แนบสนิทกับผิว หรือแบบที่เป็นเนื้อมูสบางเบาหากมีสภาพผิวที่ค่อนข้างดี หลังลงครีมกันแดดให้ตามด้วยเบสหรือบีบครีมแล้วปัดทับด้วยแป้งฝุ่นก็พอ

           http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/fashion/48be2683.gifบลัช ออนชนิดครีมสีพีช ชมพู หรือสีอมน้ำตาล จะช่วยเติมความสดใสให้พวงแก้มและติดทนนานขึ้น ลงบรอนเซอร์เล็กน้อยได้เพื่อช่วยเพิ่มมิติให้โครงหน้า

           http://hilight.kapook.com/admin_hilight/spaw2/imghilight4/fashion/48be2683.gifคิ้ว จัดแต่งให้เข้ารูปได้ด้วยการใช้เจลแต่งผม และแต้มสีจากพาเลตต์แต่งคิ้ว หากใช้ดินสอเขียนคิ้ววาดลงไปเลย เมื่อโดนฝนก็อาจไหลเลอะเทอะได้ เพราะสีจากดินสอเขียนคิ้วจะค่อนข้างเข้มและมีเนื้อสีแน่นแบบดินสอเขียนขอบตา นั่นเอง

ผม

           ช่วง หน้าฝนที่ฝนตกชุกแบบนี้ หลายคนอาจต้องทำใจไว้ได้เลยว่าสภาพผมจะเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นผมมัน ลีบแบน หรือจัดทรงยาก และนี่คือข้อแนะนำให้คุณเตรียมรับมือกับปัญหาผมได้ดียิ่งขึ้น

http://hilight.kapook.com/img_cms/dookdik/ann-41_1.gifไม่ควรสระผมบ่อยเกินไป

           เมื่อ เปียกฝนคุณย่อมต้องสระผมบ่อย ๆ ซึ่งการนวดหนังศีรษะเป็นวิธีที่ดีในการช่วยลดเชื้อราที่เป็นสาเหตุของรังแค แต่ไม่ควรสระผมบ่อยเกินไป เพราะมันจะทำให้ปัญหาที่มีอยู่แล้วหนักขึ้นไปอีก แค่สระผมสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอแล้วล่ะที่จะทำให้ผมคุณสะอาดและมีสุขภาพ และไม่ทำให้เส้นผมขาดน้ำมันจนแห้งเปราะเกินไปอีกด้วย

http://hilight.kapook.com/img_cms/dookdik/ann-41_1.gifเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผมให้ดี

           คน ที่มีสภาพผมมันหรือปกติ ควรระวังในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีน้ำมันหรือความชุ่มชื้นสูงเพราะ จะทำให้ผมมันเยิ้มได้ เมื่ออยู่ท่ามกลางความชื้นผมจะดูลีบและเสียทรงได้ จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์แต่งและบำรุงผมที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ เพื่อไม่ให้ความชื้นของอากาศทำปฏิกิริยาจนทำให้เส้นผมคุณเหนียว

http://hilight.kapook.com/img_cms/dookdik/ann-41_1.gifระวังความชื้นให้ดี

           อากาศ ชื้น ๆ ของหน้าฝนอาจส่งผลให้เกิดความชื้นกับหนังศีรษะมากขึ้น จากนั้นก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับคนที่มีผมมันอยู่แล้ว ไม่ว่าคุณจะอยู่ข้างนอกหรืออยู่ภายในอาคาร ความชื้นก็เปลี่ยนสภาพผมคุณได้ โดยเฉพาะคนที่เส้นผมหยิกหรือหยักศกจะยิ่งดูดซับความชื้นจากอากาศไว้ได้มาก ซึ่งความชื้นจะทำให้เส้นผมลีบแบนได้ ทางแก้ก็คือ ปกป้องแกนผมจากความชื้นด้วยการใช้เจลแต่งผมลูบเพื่อเป็นเกราะป้องกันเส้นผม ไว้ชั้นหนึ่ง ตามด้วยสเปรย์ฉีดผมที่ไม่ทำให้ผมเหนียว รวมทั้งไม่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมมากเกิน 4 อย่างในแต่ละครั้ง คุณอาจสระผมด้วยแชมพู ใช้ครีมนวดจากนั้น แต่งผมด้วยเจล และฉีดสเปรย์ตบท้ายก็เพียงพอแล้ว

http://hilight.kapook.com/img_cms/dookdik/ann-41_1.gifอย่าทดลองทรงใหม่ ๆ มากเกินไป

           อากาศ ชื้น ๆ แบบนี้คือช่วงเวลาที่คุณไม่ควรบังคับให้ผมอยู่ในสไตล์ที่ไม่คุ้นเคย เช่น คนผมตรงไม่ควรม้วนผมลอน หรือคนที่มีผมหยักศกธรรมชาติก็ไม่ควรใช้เครื่องหนีบผมตรง เพราะความชื้นอาจจะทำให้การจัดทรงของผมคุณเสียรูปไป ดังนั้น จึงควรทำผมตามลักษณะผมเดิมของคุณจะดีกว่า เช่น ผมหยักศกก็ใช้เจลลูบแต่งลอนผมให้เข้าทรงแทนที่จะหนีบผมให้ตรง ส่วนคนผมตรงก็อาจจะรวบหางม้าหรือถักเปียกแทน

แนะนำสูตรลดน้ำหนักภายใน 7 วัน สำหรับคุณผู้หญิง


กินตามสูตรนี้หนึ่งสัปดาห์ ลดน้ำหนักได้จริงๆ (Lisa)

หนึ่งสัปดาห์เป็นช่วงเวลานานพอที่คุณอาจลดน้ำหนักลงได้ถึงประมาณ 1.4 กิโลกรัม หากอยากดูผอมเพรียวลงกว่าที่คุณเป็นอยู่อย่างกะทันหัน ในช่วง 7 วันนี่ล่ะคุณผู้หญิงทั้งหลายยังพอมีเวลา

          เมื่อคุณกินตามสูตรนี้เป๊ะตลอด หนึ่งสัปดาห์ น้ำหนักจะลดลงได้แน่ และเมื่อทำตามสูตรนี้ต่อไปก็จะลดน้ำหนักได้มากขึ้น ความอ้วนไม่กลับมาแน่ๆ

          เริ่มที่มื้อเช้า : ซีเรียล 1 ถ้วยใส่นมสดพร่องมันเนย 1 ถ้วย
          เบรกช่วงเช้า : ผลไม้อะไรก็ได้ 1 ชิ้น
          มื้อกลางวัน : สลัดผักออร์แกนิกกับเนื้อไก่ย่างปริมาณ 1 ถ้วย ราดด้วยน้ำสลัดใสหรือน้ำสลัดอิตาเลียน
          ของว่างตอนบ่าย : ผลไม้ 2 ชิ้น
          มื้อเย็น : เนื้อปลาอบหรือไก่ย่างขนาด 1 จานเสิร์ฟ กับผักนึ่ง และสลัดผักราดน้ำสลัดใส หรือน้ำสลัดอิตาเลียนเช่นกัน

          ลองทำกันดูนะคะ ได้ผลอย่างไรมาบอกกันด้วยล่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

วันอาทิตย์

อาหารเพื่อสุขภาพ กินผักเยอะๆลดความเสี่ยง มะเร็งเต้านม

คุณผู้หญิง ที่ชอบกินผักดีใจได้เลย เพราะการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้เปิดเผยว่า การกินผัก ผลไม้ และถั่ว ร่วมกับการจำกัดเนื้อแดง โซเดียม และคาร์โบไฮเดรตแปรรูป อาจช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งเต้านมได้

          โดยวารสาร American Journal of Epidemilogy ตีพิมพ์งานวิจัยจาก ผศ.เทเรซ่า ที ฟังก์ จาก Simmons College ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากหญิงสาวทั้งหมด 86,000 คนตลอด 26 ปี พบว่า การกินผักและผลไม้เกี่ยวพันอย่างมากกับการลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งเต้านม

          โดย ผศ.เทเรซ่า แนะนำว่า คุณผู้หญิง ที่กินไม่ถูกหลักสุขภาพนัก อาจจะเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองทำได้ง่าย ๆ เช่น เริ่มกินถั่วไปก่อน ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยค่ะ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก

แนะนำเคล็ดลับการลดความอยากอาหาร ให้กับคุณผู้หญิง

วันนี้ขอแนะนำเคล็ดลับการลดความอยากอาหาร  ให้กับคุณผู้หญิงทั้งหลาย ปกติการลดความอ้วน หรือลดน้ำหนักนั้นเราจะต้องกินอาหารแต่น้อย โดยเฉพาะของหวานของมันๆ ต่างๆ โดยเฉพาะนอกมื้ออาหาร ซึ่งคนที่อ้วนก็มักจะเกิดความอยากกินอาหารตลอดเวลา เรามีเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณลดความอยากขนมได้บ้างค่ะ 

เมื่อ คุณรู้สึกว่าอยากกินขนม ของหวานหรืออะไรขึ้นมานอกมื้ออาหารแล้วละก็ให้รอ 10 นาทีก่อนที่จะลงมือหาของนั้นมากิน ความอยากส่วนใหญ่จะกินเวลาแค่ 10 นาทีแล้วจะหายไป ความอยากนั้นเกิดจากร่างกายของคุณต้องการน้ำและออกซิเจนดังนั้นในช่วงเวลา 10 นาทีนี้ ควรดื่มน้ำผสมมะนาวสักแก้ว แล้วหายใจเข้าไปให้เต็มปอดซัก 2-3 เฮือก เท่านี้คุณก็จะผ่านความอยากไปได้ หรืออาจจะเปลี่ยนกิจกรรมเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องกินไปทำอย่างอื่น แทน เช่นออกไปเดินเล่น (แต่อย่าไปเดินตลาดนะคะ) หรือไปอาบน้ำซะเลย จะได้เลิกคิดเรื่องกิน ถ้ายังฟุ้งซ่านไม่หยุด ก็คงต้องหามากินแก้ความหยากค่ะ แต่กินเพียงแค่คำสองคำเท่านั้น เพื่อให้รู้รสก็พอค่ะ

ที่มา Lady Tip

แนะนำสูตรลดความอ้วน จากฝรั่งเศส 24 วัน

วันนี้ขอนำเสนอ สูตรลดความอ้วน จากฝรั่งเศส ใน 24 วัน คุณผู้หญิงหลายคนคงจะถูกใจ
 อาหารของเก้าวันแรก

เช้า คือ ส้มโอ และกาแฟ หรือชา

กลางวันเป็นเนื้อสัตว์ล้วน ๆ ไม่มีข้าว ไม่มีผัก ไม่มีนม และไข่ สามารถใส่ซอสได้ กินได้มากเท่าที่ต้องการไม่จำกัด แต่มีข้อแม้ว่าในหนึ่งมื้อให้กินเนื้อสัตว์เพียงชนิดเดียวเท่านั้น

เช่น หมูล้วน ไก่ล้วน ปลาล้วน เพื่อให้กระเพาะอาหารสามารถทำงานได้ดี มากกว่าการกินปนกันที่จะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักขึ้น ความรู้พื้นฐานที่เอาไปใช้ในการเลือกกินได้ คือ หมูมีไขมันมากที่สุด เนื้อรองลงมา อาหารทะเลมีไขมันน้อย อาหารต้ม นึ่ง เผา มีแคลอรีน้อยกว่าอาหารทอด ดังนั้นใครใคร่กินก็กินได้ไม่จำกัด แม้จะเป็นขาหมูก็ตามแต่ห้ามกินอย่างอื่นปนและน้ำหนักอาจลดน้อยก ว่าที่คิด อาหารแนะนำคือสเต็กพริกไทย ปลาสำลีเผา กุ้งอบเกลือ สตูว์เนื้อไม่ใส่ผัก ปลากระพงย่างบีบมะนาว หมูทอดกระเทียม แกงจืดหมูสับล้วน ระวังอย่ากินผักและข้าวเป็นพอ

สำหรับมื้อเย็น ให้กินแต่ข้าวกล้องล้วน ๆ แต่สามารถเติมซอสได้ ผัดกับกระเทียมได้ ใส่ซีอิ้ว พริกไทยได้หมด ห้ามไม่ให้มีนมกับไข่ผสมเด็ดขาด ผักและเนื้อสัตว์กินไม่ได้เช่นกัน อาหารแนะนำ ได้แก่ ข้าวผัดกระเทียมใส่ซีอิ๊วขาว ข้าวผัดกะปิ ข้าวคลุกมันกุ้ง ข้าวผัดมันปู ข้าวคลุกน้ำพริกตาแดง ข้าวคลุกน้ำพริกต่าง ๆ ข้าวคลุกพริกป่นบีบมะนาว

สามวันต่อมา (ท่านจะเริ่มสังเกตได้ว่าน้ำหนักลดลงจนมีกำลังใจ) มื้อเช้ายังคงเหมือนเดิม มื้อกลางวันและเย็นเป็นผลไม้ล้วน ๆ ใช่ค่ะ ผลไม้ล้วนๆ ห้ามมีอย่างอื่นเกี่ยวข้อง ผลไม้อะไรก็ได้ที่ใกล้มือ หาง่าย ทุเรียนก็ได้ มะม่วงก็ได้ กินเท่าไหร่ก็ได้แต่ต้องกินเป็นมื้อ ไม่ใช่กินจุบจิบ ทีนี้ท่านที่จ้องจะกินแต่ทุเรียนและมะม่วงสุกน้ำหนักอาจลดน้อยก ว่าที่ควร ระวังกันไว้หน่อยดีกว่าค่ะ

เก้าวันชุดที่สอง ระดับความอดทนมากขึ้นไปอีก คือ นอกจากอาหารเช้าที่เหมือนเดิมแล้ว

มื้อที่เหลือเป็นผักล้วน แต่โชคดีที่ฝรั่งเค้านับมันฝรั่ง เผือก ข้าวโพด เป็นผักด้วยเหมือนกัน อาหารแนะนำ ได้แก่ คะน้าผัดน้ำมันหอย ผักนึ่งจิ้มน้ำพริก ผัดผักทุกอย่าง สลัดผักน้ำใส (ที่ไม่ใส่นม ไข่ และน้ำตาล)

สามวันสุดท้าย ไม่ยากแล้ว มื้อเช้ายังเหมือนเดิม นอกนั้นเราจะกลับมากินแต่ผลไม้ล้วน ๆ เมื่อครบสูตรนี้แล้วน้ำหนักจะลดลง ทันตาเห็นค่ะ ยิ่งถ้าใครสามารถคุมอาหารเลือกที่มีแคลอรีและไขมันน้อย ๆ ได้ น้ำหนักจะยิ่งลดมากกว่า 5 กิโลกรัมอีกค่ะ ตัวอย่างเช่น เลือกกินปลามากกว่าขาหมู ส้มมากว่าทุเรียน เป็นต้น ทีนี้เราต้องระวังอีก สูตรอาหาร 24 วันนี้ ถ้าพลาด ผิดหรือเผลอไปหมายถึงให้เริ่มวันแรกใหม่ เริ่มตั้งต้นใหม่หมดนะคะ เมื่อครบ 24 วันแล้ว เราสามารถกลับไปกินอาหารแบบก่อนเริ่มทำได้อีก แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ระวังเรื่องน้ำหนักเลย สูตรไหนก็เอาไม่อยู่ค่ะ วิธีนี้เป็นวิธีลดน้ำหนักที่ เกี่ยวกับระบบย่อยอาหารโดยเฉพาะ หลังจากทำครบสูตร ถ้าอยากผอมตลอดโดยไม่ต้องควบคุมปริมาณอาหารเลย (ใช่ค่ะ หมายถึงกินมากเท่าไหร่ก็ได้) ขอแนะนำให้ใช้วิธีนี้ค่ะ คือ ถ้าจะกินเนื้อ ให้กินเนื้อชนิดเดียวกัน ในแต่ละมื้อและกินร่วมกับผัก ห้ามกินพร้อมกับอาหารพวกแป้ง ถ้าจะกินอาหารพวกแป้งเช่นข้าว ก็ห้ามกินพร้อมกับโปรตีน ให้กินกับผักแทน ข้อแนะนำอีกอย่าง ผลไม้เป็นอาหารที่แนะนำให้ติดบ้านไว้ตลอดเลยค่ะ เพราะผลไม้ใช้เวลาอยู่ในกระเพาะเราน้อย แต่อาหารหนักจะอยู่นาน ดังนั้นเพื่อสุขถาพ เราควรกินผลไม้ก่อนกินอาหารหลัก ประมาณ 15 - 30 นาที ค่ะ วิธีนี้เราจะมีระบบย่อยอาหารที่ดีและมีผลไม้ไปตัดกำลังการกินอา หารหลักของเรา ทำให้เรากินน้อยลงเองโดยธรรมชาติ
ข้อมูลจาก thiswomen.com