วันพฤหัสบดี

อาหารควบคุมน้ำหนัก ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน

อาหารควบคุมน้ำหนัก ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน


หนุ่มๆ สาวๆ ทั้งหลายที่กำลังกังวลเรื่องน้ำหนักของตัวเองอยู่ หรือคิดอยากลดความอ้วน ลดน้ำหนัก ลองแวะเข้ามาฟังทางนี้หน่อย เนื่องจากมีเมนูมาแนะนำสำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ลดความอ้วน ลดน้ำหนัก เป็นพิเศษ แต่ไม่ใช่สูตรลดความอ้วน หรือ สูตรลดน้ำหนัก แต่อย่างใด นะจ๊ะ

เริ่ม ต้นมื้อแรกกันเลย กับอาหารมื้อเช้า ที่ถือว่าเป็นมื้อสำคัญที่ขาดไม่ได้ เนื่องจากร่างกายคนเราขาดอาหารมาแล้วอย่างน้อย 8 ชั่วโมง นับตั้งแต่มื้อเย็นของเมื่อวาน ดังนั้น ช่วงเช้าร่างกายคนเราจึอาหารลดน้ำหนักลดความอ้วน สูตรลดความอ้วนงต้องการพลังงานเข้ามาช่วยให้สมองทำงานได้อย่างเต็ม ที่ อาหารเช้าจึงต้องเป็นอาหารที่ให้พลังงานค่อนข้างสูงต่อร่างกาย

สำหรับอาหารเช้าที่ ให้พลังงานสูง แต่ไม่อ้วน ก็เห็นจะเป็นอาหารจำพวกธัญพืช เช่น ข้าวกล้อง ที่สามารถนำไปประกอบเป็นข้าวต้ม พร้อมมีกับแกล้มเล็กน้อย (ยกเว้นจะต้องไม่มัน ไม่ทอด) และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงของหวาน เพราะ น้ำตาลที่ได้จากของหวานจะทำให้ร่างกายจะดูดซึมและนำไปใช้อย่างรวดเร็ว มีผลทำให้สมองทำงานได้ช้าลงจะได้ช่วยเหลือในการลดน้ำหนัก ลดความอ้วน แต่ไม่ต้องอดอาหารเพื่อลดความอ้วน หรือลดน้ำหนัก น่ะ

สำหรับมื้อกลางวัน ควร เลือกทานอาหารประเภทน้ำๆ เช่น ตระกูลเกาเหลาทั้งหลาย เนื่องจากน้ำจะทำให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น หรือถ้าจะเลือกทานจำพวกเนื้อสัตว์ ขอให้เป็นประเภทสัตว์ที่มีขนาดเล็ก เพราะสัตว์ใหญ่จะมีการสะสมไขมันในชั้นกล้ามเนื้อค่อนข้างสูง ซึ่งอาจทำให้อ้วนแทนที่จะผอมลง ส่วนผู้ที่ไม่รู้สึกหิวในช่วงนี้ อาจทานผลไม้แทน แต่ขอให้เลือกผลไม้ที่ไม่มีรสหวานจัด ไม่อย่างนั้นจะอ้วนขึ้นโดยไม่รู้ตัว ฮิๆพยายามเข้า การลดน้ำหนัก และ ลดความอ้วน ไม่ยากอย่างที่คิด แต่ห้ามอดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก หรือ ลดความอ้วนเช่นกัน

อาหารลดน้ำหนักลดความอ้วน สูตรลดความอ้วน

สำหรับอาหารเย็นนั้น ควรทานแต่พออิ่ม แล้วอาหารที่เลือกทาน ก็ควรเป็นเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อปลาและถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรปรุงด้วยวิธี การนึ่ง ต้ม ย่าง แทนการทอดหรือจะเพิ่มผักสด ผักต้มเข้ามาในเมนูให้มากขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และช่วยในเรื่องการขับถ่าย ซึ่งนับว่าเป็นผลดีต่อสุขภาพเราเอง ไม่งั้นอุตส่าห์ตั้งใจลดน้ำหนัก หรือลดความอ้วน มาทั้งวันน พระเอกตกม้าตอนจบ ไม่ดีน่ะเนี่ย


ข้อมูลจาก www.orangeshape.com

โรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน

โรคที่เกี่ยวข้องกับความอ้วน

โรคเบาหวาน

คนอ้วนมีสถิติเป็นโรคเบาหวานมากกว่าคนปกติถึง 5 เท่า เพราะ เมื่อร่างกายมีไขมันมากขึ้น อินซูลินจะทำงานด้อยลงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น จนกลายเป็นเบาหวาน

โรคความดันโลหิตสูง

คนอ้วนมีสถิติเป็นโรคความดันโลหิตสูงมากกว่าคนปกติถึง 3.5 เท่า เพราะเมื่อร่างกายมีไขมันสะสมมากขึ้น หัวใจต้องส่งเลือดออกไปเลี้ยงตามส่วนต่างๆ มากขึ้น ทำให้ความดันภายในหลอดเลือดสูงขึ้น

โรคหัวใจกับความอ้วนลดความอ้วนลดน้ำหนัก โรคหัวใจ

คนอ้วนมีสถิติเป็นโรคหัวใจมากกว่าคนปกติถึง 2 เท่า เพราะเมื่อร่างกายมีไขมันสะสมมากขึ้น หัวใจต้องส่งเลือดออกไปเลี้ยงตามส่วนต่างๆ มากขึ้น ทำให้หัวใจมีขนาดใหญ่ขึ้น

โรคเก๊าท์ (อาการ URATEMIA)

คนอ้วนมีสถิติเป็นโรคเก๊าท์มากกว่าคนปกติถึง 3 เท่า ถ้าเรากินมากไปดื่มมากไป จะทำให้ปริมาณกรดยูริก (ของเสียที่ขับออกจากนิวเคลียสของเซลล์) ในเลือดสูง ทำให้เกิดการตกผลึกจับอยู่ตามไขข้อ มีอาการปวดทรมาน

โรคหลอดเลือดแข็งตัว

โรคที่เกิดง่ายที่สุดสำหรับคนอ้วนคือ โรคที่เกิดจากอาการหลอดเลือดแข็งตัว อันเป็นผลนำไปสู่โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองแข็งตัว โรคความดันโลหัตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดสมองแข็งตัว อาจมีอาการเลือดออกในสมองหรือสมองขาดเลือด ส่งให้ผลเป็นอัมพาตได้
หุ่นสวย หน้าใส ไร้สิว ด้วยผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก

โรคไขมันในตับ

ตับเปรียบเหมือนโรงงานเคมี ทำหน้าที่สันดาปและเป็นศูนย์กลางรับส่งสารต่างๆในร่างกาย หากร่างกายมีไขมันมาก ตับก็จะได้รับไขมันมากด้วย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้นานๆ ตับจะเสื่อมได้

โรคนิ่ว

โรคนิ่วเกิดจากคลอเรสเตอรอลแข็งตัวจับกันเป็นก้อนนิ่ว อันมีผลมาจากร่างกายมีไขมันในเส้นเลือด (คลอเรสเตอรอล) สูง

โรคหลอดอาหารอักเสบ

คนอ้วนจะมีไขมันที่หน้าท้องมาก และไขมันที่หน้าท้องนี้จะกดกระเพาะอาหาร ทำให้ภายในกระเพาะอาหารมีแรงดันสูงขึ้น น้ำย่อยจึงไหลย้อนกลับขึ้นไปที่หลอดอาหาร ส่งผลให้ผนังภายในหลอดอาหารถูกทำลาย มีอาการเรอเหม็นเปรี้ยว มีอาการปวด เป็นต้น

โรคนอนกรนความอ้วนลดน้ำหนักลดความอ้วน


โรคนอนกรน

อาการนอนกรน คือ อาการหยุดหายใจเป็นช่วงๆ ขณะหลับ ซึ่งสาเหตุหนึ่งมาจากการมีไขมันจับอยู่ภายในหลอดลม ทำให้หลอดลมตีบและเกิดแรงดัน ส่งผลให้หายใจติดขัด หากเป็นเช่นนี้บ่อยๆ และนานๆ อาจทำให้เสียชีวิตกะทันหันได้

อาการไขข้อเสื่อมและปวดบั้นเอว

คนอ้วนจะมีน้ำหนักตัวมาก ทำให้บั้นเอวและข้อต่างๆโดยเฉพาะหัวเข่าต้องแบกรับน้ำหนักตัวที่มากเกินไป อยู่ตลอดเวลา ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณเอวอักเสบ มีอาการเจ็บปวด และข้อเข่าเสื่อม

ฮอร์โมนเพศผิดปกติ

ฮอร์โมนเพศละลายในไขมันได้ง่าย จึงพบว่า คนอ้วนมักมีฮอร์โมนเพศไม่สมดุล ส่งผลเสียต่างๆ เช่น เพศชาย จะเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก เพศหญิง ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือขาดหาย เป็นหมัน มะเร็งมดลูก มะเร็งเต้านม เป็นต้น

ลดความอ้วน 6 วิธีหุ่นดี สวยโดนใจ



น้ำหนักส่วนเกินลดยังไงก็ไม่ลง นอกจากการควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้ว ยังมีวิธีที่สามที่ช่วยต่อกรกับไขมัน นั่นก็คือ "สู้ด้วยจิตใจ" กลอเรีย โทมัส ที่ปรึกษาด้านฟิตเนสบอก
6 Steps to a slimmer you

ในทางทฤษฏี การลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยาก การกินอาหารที่มีคุณค่าครบถ้วนแต่พอประมาณ ออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และสามารถควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ แต่ดูเหมือนความเบื่อหน่าย ความเครียด และอารมณ์ที่สับสน ทำให้คุณอดใจไม่ไหว หยิบไอศกรีมดับเบิ้ลช็อกชิปใส่ปาก อันเดียวไม่พอ เผลอๆ ถึงสอง อาหารกับความรู้สึกเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นตามหลักเหตุผลแล้ว หากคุณต้องการกำจัดน้ำหนักส่วนเกินแล้ว คุณต้องเอาชนะความอยากกินให้ได้

1.รู้จักจุดอ่อนของตัวเอง

การทำความรู้จักพฤติกรรมการลดน้ำหนักของตัวเอง ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี จงทำเครื่องหมายหน้าข้อความต่อไปนี้ที่ตรงกับคุณ :

ฉันลงมือควบคุมอาหารวันจันทร์ พอวันพุธทุกอย่างก็กลับสู่อีหรอบเดิม
กินช็อกโกแลตทั้งที อันเดียวไม่พอหรอก อย่างฉันต้องครึ่งกล่อง
ฉันลดน้ำหนักเท่าไรก็ไม่ลงสักที
เครื่องชั่งน้ำหนักที่อยู่ในห้องน้ำเป็นสิ่งที่ฉันขาดไม่ได้
อาหารเป็นชีวิตจิตใจของฉัน
ฉันต้องคอยควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักอยู่เป็นประจำ
ฉันกินจุมาก
ฉันติดอาหารบางอย่างงอมแงม ต้องกิน ขาดไม่ได้
ฉันชอบกินตามใจปากตัวเอง
ฉันกินได้เรื่อยๆ ทั้งวัน
ฉันไม่มีเวลาออกกำลังกาย
ฉันไม่สนว่าอาหารชนิดไหนที่ควรระมัดระวัง
ฉันลดน้ำหนักมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ดูเหมือนน้ำหนักยิ่งเพิ่ม
เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น ฉันกินน้อย แต่พอกลับบ้าน กินไม่ยั้ง
ฉันมักกินอาหารที่ลูกๆ กินเหลือทิ้งไว้
กินให้อิ่ม อย่าให้เหลือ นี่คือสิ่งที่ฉันยึดถือ
ฉันหลอกตัวเองเป็นประจำว่าอาหารที่กินไม่ทำให้อ้วน
ฉันจะกินๆ เวลารู้สึกหดหู่หรือเครียด

สิ่งที่ควรทำ

มีเหตุผลมากมายที่ทำให้แผนควบคุมน้ำหนักของคุณล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นเพราะเบื่องานที่ทำ หรือกินเพราะต้องการดับความเครียด ซึ่งวิธีต่อไปนี้จะช่วยหยุดความล้มเหลวดังกล่าวได้ เริ่มจากประเมินสิ่งที่คุณทำมาก่อนหน้านี้ โดยการทำเครื่องหมายหน้าแบบสอบถามที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อหาสาเหตุของความล้มเหลว เขียนสิ่งที่คุณพยายามทำก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมน้ำหนัก โดยแบ่งออกเป็น 2 หัวข้อ หัวข้อแรกคือ "สิ่งที่ทำสำเร็จ" และ "สิ่งที่ทำไม่สำเร็จ" นึกถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นภายหลังการลดน้ำหนักล้มเหลว โดยคิดถึงผลในระยะสั้นและผลในระยะยาว จากนั้นไปที่ขั้นตอนที่ 2

2.ความมุ่งมั่นตั้งใจ? ลืมมันไปซะ!

การบอกกับตัวเองว่าอย่ากินนั่นกินนี่ วิธีนี้ไมได้ผล เพื่อหยุดตามใจปาก คุณต้องสร้างความสำนึกให้เกิดกับจิตส่วนลึกของคุณก่อน

หยุดตำหนิตัวเองที่เผลอไปกินเอแคลช็อกโกแลตเข้า ความมุ่งมั่นตั้งใจหามีประโยชน์ไม่ ในเวลาที่คุณกำลังลดน้ำหนัก นั่นเพราะไม่ว่าคุณจะบอกกับจิตสำนึกของคุณมากแค่ไหน คุณต้องทำให้จิตใต้สำนึกเกิดความมุ่งมั่นเสียก่อน สมองของคุณตอบสนองต่อคำแนะนำที่คุณบอก แต่จะลบคำปฏิเสธทิ้ง ดังนั้นถึงคุณจะบอกกับตัวเองว่า "ฉันต้องไม่กินขนมพุดดิ้งชิ้นนั้นเพิ่มอีก ฉันต้องไม่กินอีกเป็นอันขาด" คุณรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น ให้ลบคำว่า "ไม่" ออกแล้วคุณจะได้คำตอบ จะเห็นว่าความมุ่งมั่นตั้งใจไม่สามารถครอบงำจิตใต้สำนึก

สิ่งที่ควรทำ

พิจารณาชีวิตแต่ละด้านของคุณ มีด้านใดบ้างที่ความมุ่งมั่นตั้งใจให้ผลกับคุณ เกิดอะไรขึ้นเวลาที่คุณต้องการจำกัดอาหารบางอย่าง คุณสามารถปฏิเสธขนมขบเคี้ยวในงานปาร์ตี้หรือยอมทิ้งอาหารในจานเพราะอิ่มแปล้ได้หรือไม่ จงซื่อสัตย์กับตัวเองด้วยการเขียนคำตอบที่แท้จริงลงไป คุณอาจพบว่าความมุ่งมั่นตั้งใจช่วยอะไรไม่ได้มากนัก เวลาคุณอยากกินอาหารมากๆ ถึงเวลาที่คุณน่าจะมองหาวิธีอื่นที่มีประโยชน์มากกว่านี้ดีกว่า

3.สังเกตนิสัยที่ไม่ดี

ประสบการณ์การกินในวัยเด็ก มีอิทธิพลต่อการเลือกกินในตอนโตเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นจงระมัดระวังเรื่องอาหารการกินของคุณให้ดี

รูปแบบการกินอาหารของเรามักได้รับอิทธิพลมาจากพ่อแม่และคนรอบข้าง ถ้าคุณถูกเลี้ยงให้โตมากับการกินเบอร์เกอร์และมันฝรั่งทอดกรอบ ย่อมอาจทำให้คุณชอบกินอาหารประเภทนี้เมื่อโตขึ้น ถ้าคุณถูกเลี้ยงให้โตมากับการกินผักที่ปลูกเองในบ้าน ก็ย่อมทำให้คุณมีแนวโน้มกินผักไปตลอดชีวิต การกินอาหารพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัวอาจเป็นช่วงเวลาสบายๆ ผ่อนคลาย หรืออาจเป็นเวลาของการมีปากเสียง ซึ่งพบได้บ่อยตอนคุณเป็นเด็ก เวลากินข้าวหมดจาน คุณจะได้ขนมเป็นรางวัล หรือถูกไล่ให้ไปนอนโดยไม่มีข้าวตกถึงท้องเวลาดื้อ เมื่อเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงมาถึง เพราะคุณโตเป็นผู้ใหญ่ คุณก็มักพยายามทำอะไรที่ตรงข้ามกับประสบการณ์ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ

สิ่งที่ควรทำ

ตรวจสอบนิสัยการกินภายในจิตใต้สำนึกของคุณ คุณเป็นคนประเภทไหน กินอะไรไม่ระวัง หรือกินจนเกลี้ยงจาน ไม่เหลือซักเม็ด ถึงแม้จะกินอิ่มแล้วก็ตาม คุณอาจขอให้แฟน ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนคอยเตือนสติคุณ เวลาคุณใช้จิตใต้สำนึกเป็นตัวตัดสินใจเรื่องการกิน เช่น การหยิบคุกกี้ในกระป๋องมากกินโดยไม่คิด

4.ใช้จินตนาการ

ใช้ประโยชน์จากจิตใต้สำนึกของคุณและค่อยๆ นำการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ชีวิตประจำวัน

เวลาที่คุณรู้สึกสงบผ่อนคลายอย่างเต็มที่ จิตใต้สำนึกมีความสำคัญ ดังนั้นจงเปิดรับการเปลี่ยนแปลง และคุณสามารถบงการจิตใต้สำนึกให้ทำตามฝันและแรงบันดาลใจของคุณได้ การฝึกทำสมาธิเป็นประจำ จะช่วยให้คุณทำจิตใจให้สงบเยือกเย็นได้ไม่ยาก ในข้อเท็จจริงแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติอย่างการฝันกลางวัน หรือช่วงเวลาก่อนนอนหรือหลังตื่นนอน ถือเป็นช่วงที่จิตใจรู้สึกผ่อนคลาย

สิ่งที่ควรทำ

นั่งในท่าสบายๆ บอกกล้ามเนื้อแต่ละส่วนให้ผ่อนคลาย กระทั่งกล้ามเนื้อแต่ละส่วนรู้สึกหนัก จินตนาการว่าตัวคุณนั่งอยู่ชั้นบนสุดของบันได นับถอยหลังจาก 20 ลงไป หายใจเข้าลึกๆ ระหว่างถัดบันได้ลงมาแต่ละขั้น จนถึงขั้นสุดท้าย กำหนดสมาธิไปที่ลมหายใจเข้าออก กระทั่งจิตใจสงบผ่อนคลายอย่างเต็มที่ คราวนี้ให้เลือกข้อความจากแบบสอบถามที่คุณทำเครื่องหมายไว้ขึ้นมา 1 หัวข้อ คุณอยากจินตนาการอย่างไร ตัวอย่างเช่น "ฉันลดน้ำหนักเท่าไรก็ไม่ลงสักที" ให้บอกกับตัวเองแทนว่า "ฉันลดน้ำหนักได้ตามที่ต้องการ" หลับตาลงพร้อมนำข้อความนี้มาจินตนาการเป็นภาพ นึกภาพตัวคุณเองในแบบที่คุณอยากเป็น คุณเห็นตัวเองลดน้ำหนักได้สำเร็จ เติมรายละเอียดต่างๆ สีสันเสียง และความรู้สึกให้กับภาพในจินตนาการของคุณ ดื่มด่ำความสุขกับภาพบวกนี้ตราบเท่าที่คุณต้องการ จากนั้นลืมตาขึ้น

5.เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง

มอบความรักให้ร่างกายของคุณ พุ่งเป้าที่จะทำให้หุ่นดีและร่างกายแข็งแรง โดยการตั้งเป้าหมายที่ทำได้จริง

คนส่วนใหญ่ลดน้ำหนักไม่ได้ผล เพราะอยากมีหุ่นดีในแบบที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณมีหุ่นตัน ลำตัวหนา การควบคุมอาหาร วิ่ง ว่ายน้ำ หรือไม่ว่าจะวิธีใดในโลกนี้ ก็ไม่อาจทำให้รูปร่างของคุณเหมือนนางแบบ แอล แมคเฟอร์สัน ไปได้ยิ่งคุณพยายามจะเป็นมากเท่าไร โอกาสที่จะลดน้ำหนักให้ได้ตามเป้าหมายก็มีน้อยเท่านั้น น้ำหนักมีความสัมพันธ์กับภาพลักษณ์ และเมื่อคุณยอมรับรูปร่างตามธรรมชาติของคุณ คุณก็สามารถทำให้ตัวเองดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

สิ่งที่ควรทำ

ใช้เวลา 5 นาทีในตอนเช้ากล่าวย้ำข้อความที่เป็นบวกกับตัวเอง เช่น "ฉันชอบหุ่นตัวเอง" หรือ "ฉันดีใจที่น้ำหนักลดลงใกล้เคียงกับที่ฉันตั้งใจไว้" การทำเช่นนี้อาจทำให้คุณรู้สึกแปลกๆ ในตอนต้น แต่หลังจากนั้นสักพัก คุณจะเชื่อในสิ่งที่คุณบอกกับตัวเอง

6.ทำวันนี้ให้ดี

เพื่อให้การลดน้ำหนักประสบความสำเร็จ คุณต้องจัดการกับนิสัยที่ไม่ดีของคุณ และรูปแบบการกินที่ไม่ดีในแต่ละวัน

คุณกินของว่างจำพวกมันฝรั่งทอดกรอบและช็อกโกแลต มาเกือบตลอดทั้งชีวิต การบอกตัวเองว่าจะไม่แตะต้องของว่างไขมันสูงพวกนี้อีก จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ อย่าบอกตัวเองว่าวันนี้คุณจะไม่กินมันฝรั่งทอดกรอบหรือช็อกโกแลต เพราะจิตใต้สำนึกของคุณตอบสนองต่อเวลาในปัจจุบันได้ดีที่สุด แต่จงกล่าวข้อความเหล่านี้แทน เช่น "ทุกวันนี้ฉันกำลังเดินหน้าลดน้ำหนักเพื่อให้ใส่ยีนส์ตัวใหม่ได้ ทุกวันนี้ฉันระมัดระวังเรื่องอาหารการกินอย่างมาก และฉันรู้ว่าฉันควรหยุดกินทันทีที่รู้สึกอิ่มและหายหิว"

สิ่งที่ควรทำ

จดจำเป้าหมายให้ขึ้นใจ ลองหาคำตอบดูว่า การไปให้ถึงน้ำหนักที่ตั้งเป้าไว้ต้องใช้เวลานานแค่ไหน จำไว้ว่าองค์การอนามัยโลก (The World Health Organization) แนะให้ลดน้ำหนักได้ไม่เกิน 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ จากนั้นกำหนดเป้าหมายขั้นต่อไปที่เล็กลง อันจะนำไปสู่จุดหมายได้สำเร็จง่ายขึ้น วิธีนี้จะทำให้คุณเดินไปตามเป้าที่กำหนดไว้โดยไม่สะเปะสะปะ และทุกครั้งที่คุณเดินไปถึงเป้าหมายนั้น ให้คุณกล่าวชมเชยตัวเอง จากนั้นเดินหน้าสู่เป้าหมายต่อไป


ข้อมูลจาก thiswomen.com

ลดความอ้วน วิธีทานอาหารอย่างสาว หุ่นดี



ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยใครก็ต้องอยากมีรูปร่างที่ดีอย่างแน่นอน แต่จะทำอย่างไรนี่สิคะที่เป็นเรื่องยาก เพราะแค่จะใช้ชีวิตในแต่ละวันก็แสนจะวุ่นวายมากพออยู่แล้ว การทานอาหารก็ต้องรีบเร่งไม่ค่อยได้ใส่ใจ ทำให้หลายคนเจอกับปัญหาความอ้วนตามมา ส่วนคนที่ทานเท่าไรก็ไม่อ้วนก็เป็นที่น่าอิจฉากันไป แต่เดี๋ยวก่อนค่ะ อย่าเพิ่งไปอิจฉาตาร้อน คุณเธอเหล่านั้นเลย เพราะเรามีเคล็ดลับการทานที่จะทำให้คุณหุ่นดีได้ไม่ยาก ไม่แพ้สาว ๆ คนไหนเลยมาฝากกันค่ะ

ขยันทานผลไม้

หัดตัวเองให้เป็นคนชอบทานผลไม้และทานให้มาก ๆ แต่ต้องเลือกดูผลไม้ที่ไม่หวานจนเกินไป ส่วนผลไม้ต้องห้ามก็คือ ทุเรียน เงาะ ขนุน ลำไย ละมุด เป็นต้น

ทานอาหารให้ครบทุกมื้อ

การทานอาหารควรให้ความสำคัญกับอาหารมื้อหลักทั้ง 3 มื้อ คือเช้า กลางวัน เย็น ซึ่งทานก่อน 6 โมงเย็น และหลังจากนั้นก็ไม่ควรทานอะไรอีก แต่ถ้าหากทนไม่ไหวก็ลองดื่มชาเขียวร้อนสักแก้วก็ช่วยให้หายอยากได้

ดื่มน้ำเป็นประจำ

การดื่มน้ำก็สำคัญ ควรดื่มน้ำอย่างน้อยให้ได้วันละ 6-8 แก้ว

เคี้ยวช้า ๆ เข้าไว้

หัดตัวเองให้เป็นคนเคี้ยวอาหารให้นาน ๆ อย่างน้อย 10 ครั้งต่อหนึ่งคำ เพราะไม่งั้นแล้วขืนคุณเคี้ยวเร็ว จะทำให้คุณทานได้เยอะกว่าเดิมนะคะ

อย่าทานพร้อมทำกิจกรรมอื่น

ห้ามทานอาหารไปพร้อมกับทำกิจกรรมอื่น ๆ อย่างเช่น อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ เล่นอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่การนั่งรถ เพราะจะทำให้คุณทานได้มากกว่าปกติ โดยไม่รู้ตัว แล้วความอ้วนก็จะตามมาเป็นเงาตามตัวคุณเลยทีเดียว

การดื่มนม

หากก่อนนอนคุณต้องดื่มนม ไม่ว่าจะเป็นนมเปรี้ยว นมพร่องมันเนย ก็ควรดื่มก่อนนอน 4 ชั่วโมง

เบเกอร์รี่ได้ แต่น้อย

จริง ๆ แล้วถ้าอยากผอมก็ไม่ควรทาน แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ทานได้สัปดาห์ละครั้ง เท่านั้น แล้วก็ไม่ใช่ว่ากินแบบเต็มอิ่มนะคะ แค่ชิ้นสองชิ้นพอ

เชื่อมั่นในตัวเอง

เลือกทานอาหารที่คุณเห็นว่ามีแคลอรีต่ำ ที่คุณเชื่อว่าเหมาะกับคุณ อย่าปล่อยให้เพื่อน ๆ ชักจูง หรือท้าทายจนคุณปล่อยตัวปล่อยใจไปกับอาหารที่มีไขมันสูงได้

หนึ่งจานก็เพียงพอ

ถึงแม้ว่าคุณจะหิวมากแค่ไหนก็ตามให้สั่งอาหารมาทานก่อนหนึ่งจาน อย่าเพิ่งสั่งจานที่สอง เพราะแค่จานเดียวก็ทำให้คุณอิ่มได้ จำไว้เลยนะคะ หนึ่งจานต่อหนึ่งมื้อเท่านั้น

เน้นผักมากกว่าเนื้อสัตว์

เวลาที่จะทานอาหารให้สังเกตก่อนว่า มีผักในปริมาณแค่ไหน เนื้อสัตว์ก็เช่นกัน จากนั้นให้ทานผักก่อนแล้วตามด้วยเนื้อสัตว์ หรือทางที่ดีก็เขี่ยเนื้อสัตว์ออกไปเลย

เลี่ยงอาหารไขมันสูง

อาหารไขมันสูงอย่างแกงกะทิ หรือน้ำอัดลมทุกชนิด ควรงดทานไปเลยนะคะ เพราะถ้าทำได้จะทำให้ลดน้ำหนักลงได้ง่ายขึ้น

ชา กาแฟวันละหนึ่งถ้วย

ถ้าเป็นไปได้หากใครที่ชอบทานชา กาแฟ หรือโอวัลติน ควรทานแค่วันละ 1 แก้วก็พอ และถ้าไม่ใส่น้ำตาลเลยก็จะดีมาก

งดลูกอมทุกชนิด

ลูกอมทั้งที่ทานเล่น หรือที่ใช้ระงับกลิ่นปาก ล้วนมีแต่น้ำตาลเป็นส่วนประกอบ เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรทานบ่อย ๆ

การเลือกทานอาหารที่เหมาะสมเป็นกิจวัตรแบบนี้ ก็จะทำให้คุณมีรูปร่างดีไร้ไขมันส่วนเกินแล้วล่ะค่ะ แถมยังมีสุขภาพที่ดีอีกต่อหนึ่งด้วย..



ขอขอบคุณข้อมูลจาก thiswomen.com

ลดน้ำหนัก กีฬา กับ แคลอรี่

ออกกำลังกาย

หลายคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก ถามเข้ามามากว่า การออกกำลังกายแต่ละชนิดมีอัตราการเผาผลาญพลังงานแตกต่างกันไหม วันนี้จึงมีข้อมูลดี ๆ มาบอกต่อค่ะ


ประเภทกีฬา
การเผาผลาญแคลอรี/30นาที
ข้อดีอื่น ๆ
วิ่ง 450 ขาแข็งแรง เพิ่มความทนทานของร่างกาย
ว่ายน้ำ 360 ได้ออกกำลังกายครบทุกส่วน
ปั่นจักรยาน 300-400 ช่วยกระตุ้นระบบหัวใจและหลอดเลือด
แรงกระทำต่อข้อมีน้อย
เทนนิส 250-300 พัฒนาสมรรถภาพของปอดและหัวใจ
บาสเก็ตบอล 288 เพิ่มความยืดหยุ่น ความทนทาน
ดีต่อสุขภาพของปอดและหัวใจ
เต้นรำ 180 เพิ่มความยืดหยุ่น ความแข็งแรงของลำตัว และความทนทาน
พายเรือคายัค/แคนู 170 เพิ่มความทนทานให้ร่างกาย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อช่วงไหล่ ต้นขา กล้ามเนื้อด้านหน้าของแขนส่วนบน (bicep)


ขอขอบคุณข้อมูลจาก


http://www.cheewajit.com/articleView.aspx?cateId=6

ผิวสวย อบผิวหน้า ด้วยสมุนไพร

สมุนไพร

การอบไอน้ำช่วยทำความสะอาดผิวได้ล้ำลึก ส่งผลให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส่ขึ้น ฉะนั้น คุณควรหาเวลาว่างซักสัปดาห์ละสองสามครั้ง เพื่ออบไอน้ำผิวหน้า และนี่คือตำรับการอบไอน้ำผิวหน้าด้วยสมุนไพร ซึ่งใช้เวลาแค่สิบนาทีเท่านั้น สิ่งที่คุณต้องเตรียมก็คือ น้ำร้อนหนึ่งชามใหญ่ ๆ มะนาว ½ ผล ใบสะระแหน่สดหนึ่งกำมือ ใบมะกรูดสดหนึ่งกำมือ และน้ำมันหอมระเหยกลิ่นโรสแมรี่สองสามหยด และนี่คือขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1

ตั้งน้ำให้เดือด จากนั้นเทใส่ในชามแก้วทนความร้อน แล้วบีบมะนาวครึ่งลูกลงไป

ขั้นตอนที่ 2

เติมใบมะกรูด ใบสะระแหน่และน้ำมันหอมระเหยกลิ่นโรสแมรี่ลงไปทันที จากนั้นก้มหน้าลงไปหาชาม ให้ใกล้จนรู้สึกได้ถึงไอร้อน แต่อย่าให้ใกล้จนรู้สึกร้อนเกินไป ซึ่งระยะห่างควรอยู่ที่ประมาณ 8-12 นิ้ว จากนั้น ใช้ผ้าขนหนูคลุมศีรษะเอาไว้ เพื่อเป็นกระโจมกักเก็บไอร้อนไว้

ขั้นตอนที่ 3

อบไอน้ำเป็นเวลา 10 นาที แล้วใช้ผ้าขนหนูสะอาด ๆ ซับให้แห้ง จบด้วยการวักน้ำจากก๊อกล้างหน้าอีกครั้ง เพื่อเป็นการปิดรูขุมขน


ข้อมูลจาก thiswomen.com

www.lisaguru.com


วันเสาร์

สูตรลดน้ำหนัก 7 วัน (สูตร 3 )

สูตรลดน้ำหนัก 7 วัน (สูตร 3 )

วันที่ 1 เช้า ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ไข่ต้ม 2 ลูก+ผักต้ม
เย็น สเต็กกับสลัดผักน้ำใสและผลไม้

วันที่ 2 เช้า ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล+โฮลวีตปิ้ง 1 แผ่น
กลางวัน สเต็ก สลัดผักเขียว ผลไม้
เย็น แฮมแผ่นต้ม

วันที่ 3 เช้า ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล+โฮลวีตปิ้ง 2 แผ่น
กลางวัน ไข่ต้ม 2 ลูก สลัดกับแครอต
เย็น แฮมแผ่นต้ม

วันที่ 4 เช้า ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล+โฮลวีตปิ้ง 1 แผ่น
กลางวัน ไข่ต้ม 1 ลูก+แครอตต้ม
เย็น ผลไม้และโยเกิร์ตรสธรรมชาติ

วันที่ 5 เช้า ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ปลาเผาหรือปลาย่างกับผักต้ม
เย็น สเต็กกับสลัดผักน้ำใส

วันที่ 6 เช้า ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ไก่ย่างไม่ติดหนัง
เย็น ไข่ต้ม 2 ฟองและแครอตต้ม

วันที่ 7 เช้า กาแฟหรือชาบีบมะนาว แต่ไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ผลไม้อะไรก็ได้ปริมาณที่ต้องการ
เย็น อะไรก็ได้ที่อยากทาน ไม่จำกัดปริมาณ

สูตรลดน้ำหนัก 7 วัน (สูตร 2 ) กินง่ายมากๆ หาซื้อได้ไม่ต้องทำ


สูตรลดน้ำหนัก 7 วัน (สูตร 2 ) กินง่ายมากๆ หาซื้อได้ไม่ต้องทำ
** วันจันทร์ **
เช้า - - ไข่ดาว 1 ฟอง + ไก่ทอด 1 ชิ้น (ไม่เอาหนัง)
กลางวัน - - สะโพกไก่ย่าง 1 ชิ้น + เกาเหลา 1 ชาม
เย็น - - สลัดผัก + กาแฟใส่คอฟฟี่เมตไม่เกิน 1 ช้อนและน้ำตาลไม่เกิน 1/2 ช้อนชา

** วันอังคาร **
เช้า - - ไส้กรอก 2 ชิ้น + สลัดผัก 1 จาน
กลางวัน - - แกงจืดไก่ 1 ถ้วย + เนื้อสัตว์ผัดผัก 1 จาน
เย็น - - น้ำพริกกะปิ + หน่อไม้ + ผักจิ้ม + ไก่ตุ๋นมะดาวดอง 1 ถ้วย

** วันพุธ **
เช้า - - ต้มจืดเลือดหมู ใส่ผักกาดหอม ตำลึง 1 ถ้วย
กลางวัน - - เกาเหลาเนื้อเปื่อย 1 ชาม
เย็น - - ปลากระป๋องยำ กินกับกะหล่ำปลีสด (แทนข้าว) และแกงจืดตำลึง 1 ถ้วย

** วันพฤหัส **
เช้า - - ไข่ดาว 1 ฟอง + แฮม 1 ชิ้น
กลางวัน - - เนื้อสัตว์ตุ๋น 1 ถ้วย กินกับถั่วฝักยาว หรือถั่วแขกลวก 1 ถ้วย
เย็น - - น้ำพริกหอยแมลงภู่ กินกับแตงกวาหรือกะหล่ำปลี

** วันศุกร์ **
เช้า - - ไข่เจียวหมูสับ 1 ฟอง + ถั่วฝักยาว หรือถั่วแขกลวก 1 ถ้วย
กลางวัน - - ไก่ตุ๋น 2 ขา + ผักสด 1 จาน
เย็น - - เนื้อสัตว์ผัดกะเพรา 1 จาน

** วันเสาร์ **
เช้า - - แฮม 2 ชิ้น
กลางวัน - - เกาเหลา 1 ชาม + ส้มตำ 1 จาน
เย็น - - ชะอมชุบไข่ทอด 1 ฟอง + ปลาทูทอด 1 ตัว + ผักสด

** วันอาทิตย์ **
เช้า - -เนื้อไก่ย่าง 1 ชิ้น + ผักสด
กลางวัน - - สลัดเนื้อสัน 1 จาน + ไก่ตุ๋น 1 ถ้วย
เย็น - - ปลาแป๊ะซะ 1 ตัว + ต้มจืด 1 ถ้วย

สูตรลดน้ำหนัก 24 วัน ลดน้ำหนักได้6-8 กก.


สูตรลดน้ำหนัก
24 วัน ลดน้ำหนักได้ 6-8 กก.

สูตรลดน้ำหนักนี้ใช้เวลา 24 วัน ลดน้ำหนักได้ 6-8 กก.

โดยจะแบ่งช่วงเป็น4 ช่วงคือ 9 วัน 3 วัน 9 วัน 3 วันค่ะ

ช่วงที่1 (9 วันแรก)
มื้อเช้า ให้ทานส้มโอค่ะ ทานได้มากตามที่ต้องการ + ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ให้ทานเนื้อสัตว์ล้วนๆ โดยไม่มีข้าวหรือผักผลไม้ มาแซมด้วย ใครอยากจะทานสเต็กก็ได้ไม่ขัดข้อง แล้วก็จะทานมากเท่าไหร่ก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่า ต้องเป็นเนื้อสัตว์ชนิดเดียวเท่านั้น ไม่ควรปนเนื้อสัตว์หลายๆชนิดในมื้อเดียวกัน เพราะจะทำให้ย่อยยาก และควรจะเข้าใจไว้ด้วยว่า พวกเนื้อหมู เนื้อวัว จะมีไขมันมากกว่าพวกเนื้อปลา และอาหารพวก ต้ม นึ่ง ย่าง จะดีกว่าพวก ทอด หรือผัด
มื้อเย็นเป็นมื้อที่บางคนอาจจะบ่นว่ายาก เพราะว่าเขาให้กินแต่ข้าวกล้องล้วนๆ ไม่มีเนื้อหรือผักปนเลย แต่เขาให้ใส่ซ๊อสได้ เพราะฉะนั้น ก็นี่เลย ข้าวกล้องผัดกระเทียม ข้าวกล้องผัดมันปู ข้าวกล้องผัดน้ำพริก ตอนแรกที่ใช้สูตรนี้ ดิฉันก็ทำตามอย่างเคร่งครัดค่ะ พอตอนหลัง (คราวหลัง) ก็เริ่มแหวกกฎนิดหน่อย คือ กินข้าวกล้อง(ต้ม) กับ ผักได้ 1 อย่างค่ะ ไม่เป็นไร เพราะลองมาแล้ว ทานได้เท่าที่ต้องการค่ะ

ช่วงที่ 2 (3 วัน)
มื้อเช้า ส้มโอ + ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ
มื้อเย็น ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ

ในช่วง 3 วันนี้ หลังจากมื้อเช้าแล้ว คุณจะทานผลไม้อะไรก็ได้ จะทานทุเรียนก็ได้ ไม่มีใครว่า ไม่ต้องกลัวว่าทานทุเรียนแล้วจะทำให้น้ำหนักขึ้น

ช่วงที่ 3 (9วัน)
มื้อเช้า ส้มโอ + ชา/กาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ผักทุกอย่าง มากเท่าที่ต้องการ ไม่ปนเนื้อสัตว์หรือข้าว
มื้อเย็น ผักทุกอย่าง มากเท่าที่ต้องการ ไม่ปนเนื้อสัตว์หรือข้าว

จะกินเป็นผักต้ม/ผักสดจิ้มน้ำพริก หรือต้มจืดผักก็ได้ แกงเลียงก็ดี แต่ดิฉันก็ไม่วายโกงสูตรนิดๆ บางทีก็กินส้มตำไทยใส่ปู (ปนปูกับกุ้งมานิดหน่อย) หรือไม่ก็ ผักสดราดน้ำยาขนมจีน (ใช้น้ำยาป่า) ฮิ ฮิ

ช่วงที่ 4 (3 วัน)
มื้อเช้า ส้มโอ+ชา/กาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ
มื้อเย็น ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ

สูตรลดน้ำหนัก ลดความอ้วน สมุนไพรลดน้ำหนัก สมุนไพรหมอสุขุม


สูตรลดน้ำหนัก ลดความอ้วน นี้ใช้เวลา 24 วัน ลดได้ 6-8 กก.

โดยจะแบ่งช่วงเป็น4 ช่วงคือ 9 วัน 3 วัน 9 วัน 3 วันค่ะ

ช่วงที่1 (9 วันแรก)
มื้อเช้า ให้ทานส้มโอค่ะ ทานได้มากตามที่ต้องการ + ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ให้ทานเนื้อสัตว์ล้วนๆ โดยไม่มีข้าวหรือผักผลไม้ มาแซมด้วย ใครอยากจะทานสเต็กก็ได้ไม่ขัดข้อง แล้วก็จะทานมากเท่าไหร่ก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่า ต้องเป็นเนื้อสัตว์ชนิดเดียวเท่านั้น ไม่ควรปนเนื้อสัตว์หลายๆชนิดในมื้อเดียวกัน เพราะจะทำให้ย่อยยาก และควรจะเข้าใจไว้ด้วยว่า พวกเนื้อหมู เนื้อวัว จะมีไขมันมากกว่าพวกเนื้อปลา และอาหารพวก ต้ม นึ่ง ย่าง จะดีกว่าพวก ทอด หรือผัด
มื้อเย็นเป็นมื้อที่บางคนอาจจะบ่นว่ายาก เพราะว่าเขาให้กินแต่ข้าวกล้องล้วนๆ ไม่มีเนื้อหรือผักปนเลย แต่เขาให้ใส่ซ๊อสได้ เพราะฉะนั้น ก็นี่เลย ข้าวกล้องผัดกระเทียม ข้าวกล้องผัดมันปู ข้าวกล้องผัดน้ำพริก ตอนแรกที่ใช้สูตรนี้ ดิฉันก็ทำตามอย่างเคร่งครัดค่ะ พอตอนหลัง (คราวหลัง) ก็เริ่มแหวกกฎนิดหน่อย คือ กินข้าวกล้อง(ต้ม) กับ ผักได้ 1 อย่างค่ะ ไม่เป็นไร เพราะลองมาแล้ว ทานได้เท่าที่ต้องการค่ะ

ช่วงที่ 2 (3 วัน)
มื้อเช้า ส้มโอ + ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ
มื้อเย็น ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ

ในช่วง 3 วันนี้ หลังจากมื้อเช้าแล้ว คุณจะทานผลไม้อะไรก็ได้ จะทานทุเรียนก็ได้ ไม่มีใครว่า ไม่ต้องกลัวว่าทานทุเรียนแล้วจะทำให้น้ำหนักขึ้น

ช่วงที่ 3 (9วัน)
มื้อเช้า ส้มโอ + ชา/กาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ผักทุกอย่าง มากเท่าที่ต้องการ ไม่ปนเนื้อสัตว์หรือข้าว
มื้อเย็น ผักทุกอย่าง มากเท่าที่ต้องการ ไม่ปนเนื้อสัตว์หรือข้าว

จะกินเป็นผักต้ม/ผักสดจิ้มน้ำพริก หรือต้มจืดผักก็ได้ แกงเลียงก็ดี แต่ดิฉันก็ไม่วายโกงสูตรนิดๆ บางทีก็กินส้มตำไทยใส่ปู (ปนปูกับกุ้งมานิดหน่อย) หรือไม่ก็ ผักสดราดน้ำยาขนมจีน (ใช้น้ำยาป่า) ฮิ ฮิ

ช่วงที่ 4 (3 วัน)
มื้อเช้า ส้มโอ+ชา/กาแฟไม่ใส่น้ำตาลหรือครีม
มื้อกลางวัน ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ
มื้อเย็น ผลไม้อะไรก็ได้ มากเท่าที่ต้องการ

สูตรที่ 5 สูตร 7 วัน (สูตร 2 ) กินง่ายมากๆ หาซื้อได้ไม่ต้องทำ
** วันจันทร์ **
เช้า - - ไข่ดาว 1 ฟอง + ไก่ทอด 1 ชิ้น (ไม่เอาหนัง)
กลางวัน - - สะโพกไก่ย่าง 1 ชิ้น + เกาเหลา 1 ชาม
เย็น - - สลัดผัก + กาแฟใส่คอฟฟี่เมตไม่เกิน 1 ช้อนและน้ำตาลไม่เกิน 1/2 ช้อนชา

** วันอังคาร **
เช้า - - ไส้กรอก 2 ชิ้น + สลัดผัก 1 จาน
กลางวัน - - แกงจืดไก่ 1 ถ้วย + เนื้อสัตว์ผัดผัก 1 จาน
เย็น - - น้ำพริกกะปิ + หน่อไม้ + ผักจิ้ม + ไก่ตุ๋นมะดาวดอง 1 ถ้วย

** วันพุธ **
เช้า - - ต้มจืดเลือดหมู ใส่ผักกาดหอม ตำลึง 1 ถ้วย
กลางวัน - - เกาเหลาเนื้อเปื่อย 1 ชาม
เย็น - - ปลากระป๋องยำ กินกับกะหล่ำปลีสด (แทนข้าว) และแกงจืดตำลึง 1 ถ้วย

** วันพฤหัส **
เช้า - - ไข่ดาว 1 ฟอง + แฮม 1 ชิ้น
กลางวัน - - เนื้อสัตว์ตุ๋น 1 ถ้วย กินกับถั่วฝักยาว หรือถั่วแขกลวก 1 ถ้วย
เย็น - - น้ำพริกหอยแมลงภู่ กินกับแตงกวาหรือกะหล่ำปลี

** วันศุกร์ **
เช้า - - ไข่เจียวหมูสับ 1 ฟอง + ถั่วฝักยาว หรือถั่วแขกลวก 1 ถ้วย
กลางวัน - - ไก่ตุ๋น 2 ขา + ผักสด 1 จาน
เย็น - - เนื้อสัตว์ผัดกะเพรา 1 จาน

** วันเสาร์ **
เช้า - - แฮม 2 ชิ้น
กลางวัน - - เกาเหลา 1 ชาม + ส้มตำ 1 จาน
เย็น - - ชะอมชุบไข่ทอด 1 ฟอง + ปลาทูทอด 1 ตัว + ผักสด

** วันอาทิตย์ **
เช้า - -เนื้อไก่ย่าง 1 ชิ้น + ผักสด
กลางวัน - - สลัดเนื้อสัน 1 จาน + ไก่ตุ๋น 1 ถ้วย
เย็น - - ปลาแป๊ะซะ 1 ตัว + ต้มจืด 1 ถ้วย

สูตรลดน้ำหนัก 7 วัน (สูตร 1 ) ลดน้ำหนัก 5 กก.


วันที่ 1 กินผลไม้ทุกชนิดได้เท่าที่ต้องการ ยกเว้นกล้วย กินซุปให้มากๆด้วย
เครื่องดื่มที่สามารถดื่มได้คือ ชา น้ำแครนเบอรี่ และน้ำเปล่า
* เมืองไทยคงหาน้ำแครนเบอรี่ยาก ลองดูเป็นอย่างอื่นละกันค่ะ หรืองดไปเลยก็คงไม่เป็นไร ดื่มน้ำเปล่าดีกว่าอยู่แล้ว

วันที่2 กินผักทุกชนิดได้เท่าที่ต้องการ ไม่ว่าจะสด ดิบ หรือสุก พยายามกินพวกผักใบเขียว เลี่ยงผักจำพวกถั่วเมล็ดแห้ง กินซุปให้มากๆ แต่งดผลไม้ วันนี้ให้รางวัลกับตัวเองด้วยมันอบพร้อมเนย 1 หัว

วันที่3 กินผัก + ผลไม้ + ซุปได้มากเท่าที่ต้องการ แต่งดมันอบ

วันที่4 กินกล้วยให้ได้ 8 ผล และดื่มนมไขมันต่ำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะได้ รวมถึงซุปด้วย

วันที่5 กินเนื้อวัวได้ 300-600 กรัม และมะเขือเทศ1กระป๋อง หรือมะเขือเทศสด 6 ผล
ดื่มน้ำอย่างน้อย 6 แก้วเพื่อชะล้างกรดยูริคจากร่างกาย กินซุปอย่างน้อย 1 หน
* สำหรับคนที่ไม่กินเนื้อวัวให้ดู ** ข้างท้ายค่ะ

วันที่6 กินผักกับเนื้อวัวได้เท่าที่ต้องการ งดมันอบ กินซุปอย่างน้อย 1 หน

วันที่7 กินข้าวกล้อง + ผัก + น้ำผลไม้ที่ไม่ได้ปรุงแต่งรสหวานเพิ่ม กินได้เท่าที่ต้องการ และอย่าลืมกินซุปด้วย

เมื่อจบวันที่7 หากคุณไม่ได้โกงตัวเอง น้ำหนักคุณจะลดไปได้ 4.5 - 8 กิโล หากต้องการลดเพิ่ม ให้เว้นระยะสักสองวันก่อนจะเริ่มใหม่จากวันที่ 1 สามารถทำไปได้เรื่อยๆจนกว่าจะเบื่อ

อาหารต้องห้าม ขนมปัง ของทอด แอกอฮอล์ มันฝรั่ง ( เว้นแต่วันที่ระบุไว้ ) น้ำอัดลม

** สำหรับผู้ที่ไม่กินเนื้อวัว สามารถกินไก่ต้มหรือไก่ย่างแทนได้แต่อย่ากินหนัง หากคุณกินปลานึ่งในวันที่5แทนเนื้อวัว ควรกินโปรตีนในวันถัดไปให้มากขึ้น เพื่อชดเชยโปรตีนที่ขาดไป

หากต้องกินยาตามแพทย์สั่ง ก็สามารถกินได้โดยไม่เป็นไร สามารถทำตามสูตรนี้ไปได้เรื่อยๆ

วันศุกร์

สูตรลดน้ำหนัก ลดความอ้วน สมุนไพรลดน้ำหนัก

จุดประสงค์เพื่อปรับปรุงการเผาผลาญอาหารของร่างกาย หลังจากครบ 13 วันแล้วจะรับประทานอาหารได้ตามปกติ น้ำหนักจะไม่ขึ้นมาอีก

วันที่ 1 มื้อเช้า กาแฟ 1 ถ้วยไม่ใส่น้ำตาล

มื้อกลางวัน ไข่ไก่ต้มแข็ง 1 ฟอง ผักโขม(หรือผักกวางตุ้ง) 1 กำต้ม มะเขือเทศ 1 ผล
มื้อเย็น สเต๊กไก่ 200 กรัม (ไก่ย่าง หรือไก่อบห่อกระดาษฟอยด์แทน) น้ำสลัดมะนาว (น้ำมันสลัดผสม
น้ำมะนาว) และผลไม้สด 1 ผล (แอปเปิ้ล)

วันที่ 2 มื้อเช้าเหมือนวันที่ 1

มื้อกลางวัน แฮมต้ม/อบ 2 ชิ้น โยเกิร์ตรสจืด 1ถ้วย ฝักสลัด (ผักกาดแก้ว ผักกาดหอม)
มื้อเย็น สเต๊กไก่ 200 กรัม ผักสลัด น้ำสลัดมะนาว ผลไม้สด 1 ผล
วันที่ 3 มื้อเช้า กาแฟ 1 ถ้วยใส่น้ำตาล 1 ก้อนและขนมปังปิ้ง 1 แผ่น (เป็นโฮลวีตยิ่งดี)
มื้อกลางวัน ไข่ต้ม 2 ฟอง แฮม 1ชิ้น ผักสลัด น้ำสลัดมะนาว
มื้อเย็น เซลเลอรี่ (คึ่นฉ่ายจีนแทน) ต้ม มะเขือเทศ 1 ผล ผลไม้ 1 ผล
วันที่ 4 มื้อเช้าเหมือนวันที่ 3

มื้อกลางวัน น้ำสัมคั้น (ส้มหรือแอปเปิ้ล) หรือผลไม้ โยเกิร์ตรสจืด 1 ถ้วย

มื้อเย็น ไข่ต้ม 1 ฟอง แครอทสด 1 หัว

วันที่ 5 มื้อเช้าแครอท 1 หัวใหญ่ราดน้ำมะนาว (หรือทานน้ำมะนาวใส่น้ำอุ่นแยกต่างหาก)

กลางวันปลากระพง200กรัมอบเนยสด 1 ก้อน น้ำมะนาว
มื้อเย็น สเต๊กไก่ 200 กรัม ผักสลัด เซลเลอรี่สด

วันที่ 6 มื้อเช้าเหมือนวันที่ 3-4

มื้อเที่ยง ไข่ต้ม 2 ฟอง แครอทสด 2 หัว
มื้อเย็น ไก่อบ/ย่าง 200 กรัม ผักสลัด น้ำสลัดมะนาว

วันที่ 7 ชา 1ถ้วยไม่ใส่น้ำตาล

มื้อกลางวัน ดื่มน้ำเปล่าอย่างเดียว
มื้อเย็น บาบีคิวหมู 200 กรัม ผลไม้ 1 ผล (แอปเปิ้ล)

วันที่ 8 เหมือนวันที่ 1

วันที่ 9 เหมือนวันที่ 2
วันที่ 10 เหมือนวันที่ 3
วันที่ 11 เหมือนวันที่ 4
วันที่ 12 เหมือนวันที่ 5
วันที่ 13 มื้อเช้า กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย ขนมปังปิ้งแห้ง 1 แผ่น
มื้อเที่ยงไข่ต้ม 2 ฟอง แครอทสด 2 หัว
มื้อเย็น ไก่ 250 กรัม ผักสลัด น้ำสลัดมะนาว.........

** งดแอลกอฮอล์ เครื่องดื่ม ท๊อฟฟี่ ของหวานทุกชนิด วันที่ 2-3 มืนหัวตาลายโหวงๆ หลังจากนั้นสบายตัว ประหยัดดีด้วย เพราะพยายามไม่ซื้อกินนอกเหนือจากที่ไปสั่งไว้ค่ะ



ลดความอ้วน ให้ปลอดภัยและได้ผล


ลดความอ้วน
ให้ปลอดภัยและได้ผล
คำาว่า “อ ้ว น” นี่ฟังดูระคายหูอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะคุณสาวๆ ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ เพราะจะโทษเรื่อง
พันธุกรรมพื้นฐานที่คุณพ่อคุณแม่ให้มาเพียงอย่างเดียวก็ดูไม่ยุติธรรม เพราะเรื่องอาหารการกิน และสิ่ง
แวดล้อมก็เป็นปัจจัยสำาคัญที่ชวนให้คนไทยวันนี้อ้วนได้อ้วนดี จากงานวิจัยพบว่าขณะนี้ชาวกรุงเทพฯไม่
น้อยกว่า 25 % เป็นโรคอ้วน และนับวันก็จะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่ความอ้วนทำาให้เกิดโรคต่างๆ
ตามมามากมาย เช่น โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคเส้นเลือดสมองตีบ เบาหวาน โรคความดันโลหิต โรค
ระบบทางเดินหายใจ โรคกระดูกเสื่อม โรคระบบทางเดินอาหาร ไส้เลื่อน นิ่วในถุงนำ้าดี โรคเก๊าท์ มะเร็ง
บางชนิด เช่น มะเร็งมดลูก เต้านม ลำาไส้ ต่อมลูกหมาก มีการประมาณไว้ว่ามูลค่าการใช้จ่ายแต่ละปีที่
ใช้ในการรักษาโรคที่สืบเนื่องมาจากความอ้วนนี้มีสนนราคาขั้นตำ่าเกือบ 2,000 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว
จะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เสียแล้ว และถ้าคนไทยสนใจคุมเรื่องนำ้าหนักกันมากขึ้นก็จะช่วยลดค่าใช้จ่าย
จำานวนมหาศาลนี้ลงไปได้ไม่น้อย

รศ.ดร .นพ.กำาพล ศรีวัฒนกุล จากภาควิชาเภสัชวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้
พูดถึงเรื่อง “การลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยและได้ผล” โดยให้ข้อคิดใกล้ชิดความเป็นจริงเอาไว้
ได้น่าสนใจไม่น้อย นพ.กำาพลอธิบายความโรคอ้วน คือโร คที่ มีปริมาณไขมันภายในร่างกาย
มากกว่าปกติมีการสะสมมากกว่าพลังงาน ที่ใช้ไปนอกจากนี้การกระจายตัวของไขมันในร่างกาย
ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลร้ายต่อสุขภาพ

“หรืออย่างง่ายๆ เลย ที่จะรู้ว่าตัวเองอ้วนหรือไม่ ให้คุณยืนแล้วก้มหน้าลงมอง ถ้าไม่เห็นหัวแม่เท้าตัวเอง
นี่เรียกว่าอ้วนแน่นอน อ้วนคือการมีไขมันในร่างกายมากกว่าปกติ ซึ่งคนตัวใหญ่ มีกล้ามเยอะๆ ไม่ถือว่าเป็นโรคอ้วน”

ลดน้ำหนัก 9 กิโล ใน 2 สัปดาห์

สูตรนี้เป็นสูตร ลดน้ำหนัก 9 กิโล ใน 2 สัปดาห์ทำได้จริงนะจ๊ะ
การลดน้ำหนักควรออกกำลังกายเสริมด้วยนะ เพื่อไม่ให้ตัวเราเหี่ยว
และก็เพิ่มประสิทธิภาพจากสูตรนี้

วันที่ 1 เข้า กาแฟไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ไข่ต้ม 2 ลูก + ผักต้ม
เย็น สเต็ก สลัดผักน้ำใส+ผลไม้

วันที่ 2 เข้า กาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล ขนมปัง 1 แผ่น โฮมวีท
กลางวัน สเต็ก สลัดผักเขียว+ผลไม้
เย็น แฮมแผ่นต้ม

วันที่ 3 เข้า กาแฟ ไม่ใส่น้ำตาล ขนมปัง 2 แผ่น
กลางวัน ไข่ต้ม 2 ลูก+สลัดกับแครอตต้ม
เย็น แฮมแผ่นต้ม

วันที่ 4 เข้า กาแฟไม่ใส่น้ำตาล ขนมปัง 1 แผ่น
กลางวัน ไข่ต้ม 1 ลูก+แครอตต้ม
เย็น ผลไม้และโยเกิร์ตธรรมชาติ

วันที่ 5 เข้า กาแฟไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ปลาเผาหรือปลาย่างกับผักต้ม
เย็น สเต็ก สลัดผักน้ำใส+ผลไม้

วันที่ 6 เข้า กาแฟไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ไก่ย่างไม่ติดหนัง
เย็น ไข่ต้ม 2 ฟองและแครอตต้ม

วันที่ 7 เข้า กาแฟไม่ใส่น้ำตาล
กลางวัน ผลไม้อะไรก็ได้ ปริมาณตามความต้องการ
เย็น อะไรก็ได้ที่อยากทาน ไม่จำกัดปริมาณ

ครบแล้วก็เริ่มต้นวันที่ 1 ใหม่ค่ะ
2 สัปดาห์ น้ำหนักจะลดลง 9 กก.



วันพฤหัสบดี

diet ลดน้ำหนัก สมุนไพรลดน้ำหนัก ลดความอ้วน สมุนไพรลดความอ้วน


สำหรับสูตรนี้ ต้องงดของมัน ของทอดด้วยนะคะ ก่อนรับประทานอาหารทุกมือ

ควรดื่มน้ำก่อน 2 แก้ว


ควรนอนเวลา 1ทุ่ม คึ่ง ตื่น ตี 5 ครึ่ง
**** เวลา ทานอาหารที่ดี *****
เช้า เวลา 7.30 - 9.00 น.
กลางวัน เวลา 11.30-12.30น.
เย็น เวลา 15.00-16.30 น.

วันที่ 1

เช้า : น้ำผลไม้คั้น หรือ โยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน : ไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น : สลัดผัก

วันที่ 2

เช้า : น้ำผลไม้คั้น หรือ โยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน : ไข่ต้ม 2 ฟอง
เย็น : สลัดผัก

วันที่ 3

เช้า : กาแฟไม่ใส่น้ำตาล หรือ โยเกิร์ต 1 ถ้วย
กลางวัน : เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม (หมู, เนื้อ )
เย็น : สลัดผัก

วันที่ 4

เช้า : น้ำผลไม้คั้น หรือกาแฟดำและขนมปัง 1 แผ่น
กลางวัน : สลัดผัก และไก่ย่าง 1 ชิ้น
เย็น : โยเกิร์ต 1 ถ้วย

วันที่ 5

เช้า : น้ำผลไม้คั้น หรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย
กลางวัน : ส้มตำ และไก่ย่าง 1 ชิ้น
เย็น : สลัดผัก

วันที่ 6

เช้า : น้ำผลไม้คั้น หรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล 1 ถ้วย
กลางวัน : ปลานึ่ง หรือ ปลาเผา ไม่จำกัด
เย็น : สลัดผัก

วันที่ 7

เช้า : ข้าว 1 ทัพพี และเนื้อ 1 ชิ้นหรือไข่ต้ม 1 ฟอง
กลางวัน : เกาเหลาลูกชิ้น 1 ชาม (หมู, เนื้อ)
เย็น : สับปะรด 1 ชิ้น

การลดน้ำหนักตามสูตรนี้นั้น บางคนอาจลดได้มาก ได้น้อย แล้วแต่สรีระ

และแล้วแต่กิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน

โดย ส่วนตัวดิฉันลดได้ 5 กิโลเพราะกิจกรรมที่ทำนั้นไม่ค่อยได้เผาผลาญเท่าไร แต่ถ้าจะให้ดี ควรออกกำลังกายควบคู่กับการควบคุมอาหารไปด้วย การปรับสูตร สามารถปรับได้ตามต้องการ
แต่ควรคำนึงว่า ต้องรับประทานอาหารวันนึงให้ครบ 5 หมู่ด้วยค่ะ


www.tlcthai.com



สูตรลดความอ้วน สูตรลดน้ำหนักสูตรลดความอ้วนที่1 สู
ตรนี้ถ้าปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และไม่โกงตัวเอง รับรองว่าจะลดน้ำหนัก และ ลดความอ้วน ได้สัปดาห์ละ 5 กิโลกรัมโดย 3 วันแรกลดได้ถึง 3 กิโลกรัม
ข้อห้าม งดเหล้า ไวน์ น้ำหวาน น้ำอัดลมทุกชนิด ชา กาแฟ ได้นิดหน่อย แต่ห้ามใส่น้ำตาล
ห้ามรับประทานถั่ว ,ข้าวโพด ทุกชนิด

เริ่มวันแรก รับประทานผลไม้ทุกมื้อ โดยเฉพาะ แตงทุกชนิด เพราะมีแคลอรีต่ำ (ยกเว้นแตงกวา) ไม่มีแป้ง น้ำตาล (ส่วนอย่างอื่นงดหมด)

วันที่สอง จะเป็นผักทุกชนิด เช่น สลัดผัก มันฝรั่งนึ่งหรือเผา 1 หัว ใส่เนยก้อนเล็กๆเกลือ พริกไทย ซอสมะเขือเทศเพิ่มรสชาติ หรือจะดัดแปลงเป็นอาหารไทย เช่น เห็ดผัดกับน้ำพริกแกง,น้ำพริกเผา ช่วยให้ไม่เบื่ออาหาร (ที่สำคัญอย่างอื่นต้องงดเช่นเดียวกัน)

วันที่สาม ผักและผลไม้ ผสมกันรับประทานได้ทั้งวัน

วันที่สี่ กล้วยหอม 3 ใบ แบ่งรับประทานมื้อละ 1 ใบ ตามด้วยนมพร่องไขมัน มื้อละ 1 แก้ว

วันที่ห้า สามารถทานเนื้อสัตว์ได้ 10-20 กรัม (ประมาณชิ้นหรือสองชิ้นเล็กๆนั่นแหละ) ทานกับมะเขือเทศ 6 ลูก โดยน้ำไปอบ หรือย่าง แล้วลอกเปลือกออก แบ่งรับประทานเป็น 2-3 มื้อก็จะดี

วันที่หก รับประทานได้ทั้งเนื้อปลา ไก่ เนื้อ ทั้ง 3 มื้อ แค่พออิ่ม โดยรับประทานกับสลัดผัก

วันที่เจ็ด วันสุดท้ายแล้ว ให้เป็นข้าวซ้อมมือ กับผัก (ไม่มีเนื้อสัตว์) แนะนำให้นำข้าวไปคลุก น้ำปลา หรือผัดกับน้ำพริกเผา ผัดร้อนๆ โดยใส่ผักลงไปด้วยก็ได้ โดยไม่มีเนื้อสัตว์

เมื่อครบ 7 วัน ก็หมุน เมนูไปรับประทานเหมือนวันแรก ทำเช่นนี้เป็นประจำทุกสัปดาห์ หรือจะเสริมด้วยซุปที่รับประทานได้ทุกวัน (ยกเว้นวันแรก)

ซุปสูตรลดน้ำหนัก

ประกอบด้วย
เซลอรี 1 ต้น
กะหล่ำปลี
หอมหัวใหญ่ 6 หัว
พริกยักษ์ 1 เม็ด
มะเขือเทศ 4 ลูก

หั่นใส่รวมกัน ใส่น้ำพอท่วมผัก เติมพริกไทย เกลือ ซอสพริก เพื่อเพิ่มรสชาติ ต้มจนเปื่อย

พยายาม กันนะครับ ผมและทีมงานขอเป็นกำลังใจเพื่อนๆ ลดความอ้วน กับสูตรลดความอ้วน ให้สำเร็จนะครับ ได้ผลยังไง ก็ post บอกกันบ้างนะครับ สำหรับสูตรลดความอ้วน สูตรอื่นๆนั้น ทางทีมงาน จะเร่งมา เพิ่มเติมกับสูตรลดความอ้วน สูตรลดน้ำหนัก สูตรอื่นๆ ต่อไปนะครับ คอยติดตามละกันครับ วันนี้ เรียกน้ำย่อยกับสูตรลดความอ้วน สูตรที่ 1 กันก่อนครับ


ข้อมูลจาก www.orangeshape.com

วันพุธ

ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน สูตรลดน้ำหนัก ลดพุง ลดไขมัน สมุนไพรลดน้ำหนัก

ใครที่คิดว่าตัวเองมีสะโพกใหญ่เกินไป ใส่อะไรก็ไม่สวย วันนี้เกร็ดความรู้มีการบริหารสะโพกให้ดูดีมาฝากกัน...

วิธีแรก ควรหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการเต้นแอโรบิก การวิ่ง ปั่นจักรยาน การบริหารเฉพาะส่วน ฯลฯ เป็นวิธีที่ช่วยให้สะโพกสวย แน่น และกระชับมากขึ้น คนอ้วน หรือผอมก็สามารถใช้วิธีนี้ได้

วิธีที่สอง ควบคุมอาหาร แต่ไม่ใช่อดอาหาร เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณประโยชน์มากกว่ารับประทานตามใจปาก ควรทานให้ครบทั้ง 3 มื้อ และหยุดทันทีถ้ารู้สึกอิ่ม ลดอาหารจำพวกที่ให้พลังงานสูง และอาหารรสจัด หวานจัด มันจัด ควรดื่มนมที่พร่องมันเนย ของขบเคี้ยว ให้เลือกทานประเภทพืชเปลือกแข็งแทน เช่น ถั่ว เม็ดแตงโม ฯลฯ

วิธีที่สาม การนวดมีประโยชน์มากกับขาช่วงต้นขาด้านบน ด้านหน้าและหลัง โดยเฉพาะช่วงต่อจากก้นลงมา เพราะถ้าบริเวณนี้มีไขมันมากจะทำให้สะโพกห้อยและย้อยได้ นอกจากนี้การนวดยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต รวมทั้งกำจัดของเสียและไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังด้วย สำหรับการนวดที่ดีคือ ให้ใช้ครีมที่ใช้ขจัดไขมันใต้ผิวหนัง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการนวด ควรเป็นตอนก่อนนอน หลังอาบน้ำในตอนเช้า หรือก่อนทานอาหารหนึ่งชั่วโมง ควรใช้ครีมนวดติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ ถ้าใช้ๆ หยุดๆ จะไม่เห็นผล และหยุดใช้ครีมนวดทันทีถ้าเกิดอาการแพ้

วิธีที่สี่ การขัดผิว จะช่วยในเรื่องของการแตกลาย จุดด่างดำ ผดผื่นแดง และรอยหยาบกร้านให้หมดไป สามารถขัดผิวได้ด้วยตัวเองโดยใช้น้ำมันขัดผิวที่ทำขึ้นเองแบบง่ายๆ และประหยัด โดยนำเกลือเม็ดใส่ลงในขวด กะปริมาณตามที่ต้องการใช้ จากนั้นเติมน้ำมันมะกอกลงไป สังเกตุให้เกลือดูดซึมน้ำมันจนหมดอย่าให้แห้ง หรือเปียกเกินไป เติมน้ำหอมกลิ่นที่ชอบลงไปสัก 2 - 3 หยด จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นในขณะที่ขัดผิวให้ขัดเป็นวงกลมในบริเวณที่เกิดรอย หยาบกร้าน

วิธีสุดท้าย การเสริมแต่งด้วยชุดชั้นใน เป็นวิธีที่กำลังมาแรงและง่ายที่สุด ผู้หญิงยุคใหม่ที่อยากมีสะโพกสวยมักหันไปพึ่งชุดชั้นใน (INNERWEAR) แทน เพื่อช่วยเสริมบุคลิกภาพที่ดีแก่ผู้สวมใส่ จะช่วยจัดทรงให้แก่ผู้สวมใส่ เน้นรูปร่างสัดส่วนมากขึ้น ไม่ว่าหน้าอก เอว หน้าท้อง สะโพก

ถ้าอยากมีสะโพกที่ดูดี ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันดูได้


ข้อมูลจาก www.thiswomen.com

ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน สูตรลดน้ำหนัก ลดพุง ลดไขมัน สมุนไพรลดน้ำหนัก สมุนไพร

วันจันทร์

อาหารชุดเพื่อ ลดน้ำหนัก ใน 3 วัน

อาหารชุดเพื่อ ลดน้ำหนัก ใน 3 วัน

สูตรนี้จะลดน้ำหนักได้ 5% ของน้ำหนักตัวค่ะ บางคนอาจละได้ 1-2 กิโลกรัมเท่านั้น
ลองทำดูซัก 2 ชุดติดต่อกันนะคะ หรือจะลองสูตรอื่นดูก็ได้ค่ะ มีอีกเยอะ

อย่างไรก็ตาม การลดความอ้วนที่ได้ผลแน่นอนก็ต้องออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วยนะคะ


วันที่ 1
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ส้มโอ 1/2 ผล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ถั่วเหลืองในซอสมะเขือเทศ
มื้อกลางวัน : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ปลาทูน่า 4 ออนซ์ ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
มื้อเย็น : แฮม 2 แผ่น ถั่วฝักยาวต้ม 4 ออนซ์ (ประมาณ 115 กรัม) ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ บีทรูทต้ม 4 ออนซ์

วันที่ 2
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟอง กล้วยหอม 1/2 ผล
มื้อกลางวัน : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล แคร๊กเกอร์ (แบบเค็ม) 5 แผ่น Coltage Cheese (คล้ายโยเกิร์ต) ของโฟร์โมสต์ 120 กรัม
มื้อเย็น : แฮม 2 แผ่น บร็อคคอลรี่ต้ม 4 ออนซ์ แครอทต้ม 4 ออนซ์ ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ กล้วยหอม 1/2 ผล

วันที่ 3
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล แคร๊กเกอร์ (แบบเค็ม) 5 แผ่น Cheddar Cheese 1 แผ่น แอ๊ปเปิ้ล 1 ผล
มื้อกลางวัน : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ไข่ต้ม 1 ฟอง
มื้อเย็น : ปลาทูน่า 4 ออนซ์ บีทรูทต้ม 4 ออนซ์ ไอศกรีมวนิลา 4 ออนซ์ ดอกกระหล่ำต้ม 4 ออนซ์ แคนตาลูป 1/2 ผล

หมายเหตุ
1. ขนมปังปิ้งต้องปิ้งจนแห้ง และไม่ทาเนยหรือมาการีน
2. แคร๊กเกอร์ต้องเป็นรสเค็ม
3. ปลาทูน่าและถั่วฝักยาวอาจแช่แข็งได้
4. อาหารชุดนี้จะทำปฏิกิริยาทางเคมีซึ่งกันและกัน และพิสูจน์ได้

ข้อห้าม
1. ห้ามเปลี่ยนแปลงหรือทดแทนอาหารอื่น ห้ามใช้เครื่องปรุงอื่น นอกจากเกลือและพริกไทย
2. รายการใดที่ไม่ได้กำหนดไว้ชัดเจน ให้ใช้วิจารณญาณตามความเหมาะสม สูตรอาหารนี้ให้ใช้ติดต่อกัน 3 วัน ภายใน 3 วัน ควรลดน้ำหนักได้ 10 ปอนด์ หรือประมาณ 4.5 กิโลกรัม หลังจาก 3 วัน รับประทานอาหารได้ตามปกติ

ข้อมูลจาก www.ladytip.com



วันเสาร์

เทคนิค ลด น้ำหนัก ลด ความอ้วน สูตรลดน้ำหนัก 7 วัน

สมุนไพรลดความอ้วน
สมุนไพรไทยสามารถนำมาทำเป็นยา คราวนี้เรามีสูตรน้ำสมุนไพซึ่งสามารถช่วยลดความอ้วนได้ด้วย ลองมาดูดีกว่าค่ะ

วิธีลดความอ้วน ไขมันมักจะปิดกั้นทางเดินของเลือดลมทำให้ การเคลื่อนไหวไม่คล่องตัว เป็นโรคหัวใจด้วย
มะนาว 1 ลูก เลือกที่ผิวเหลืองแล้ว ฝานเป็นแว่น เมล็ดก็ใช้ด้วย ต้มกับน้ำ 3 ถ้วย เดือดแล้วต้มต่ออีก 10 นาที เหยาะน้ำตาลนิดหน่อย หลังอาหารเที่ยง ดื่มแต่น้ำ 1 ถ้วย ที่เหลือทิ้งไป ทำเช่นนี้อาทิตย์ละครั้ง จึงจะได้ผลจะใช้มะนาวดองก็ได้ วิธีทำเหมือนใช้มะนาวสด สูตรนี้ดื่มได้ทุกวัน

สูตร นี้ทางเรายังไม่ได้ทำการทดลองดูนะคะเลยยังไม่รู้ว่าจะได้ผลยังไงบ้าง ก็ลองทำดูกันนะคะ เพราะได้มาจากแหล่งที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือด้วยค่ะ


เทคนิค ลดน้ำหนัก ลดความอ้วน สูตรลดน้ำหนัก 7 วัน

สูตรนี้บางคนทำแล้วสามารถลดได้ถึง 9 กิโลกรัมใน 7 วันเลยนะคะ ลองเอาไปทำตามดู
แต่อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับภาวะร่างกายของคนเราด้วยนะคะ ถ้าหากน้ำหนักมากๆ เกิน 80 กิโลกรัมขึ้นไป หากทำตามสูตรนี้ได้ เชื่อว่าน่าจะลดได้ 9 กิโลแน่ๆ ค่ะ ใจแข็งพอรึเปล่าคะ

วันที่ 1
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 2 ฟอง กับผักต้ม
มื้อเย็น : สเต็กกับสลัดผักน้ำใส และผลไม้

วันที่ 2
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น
มื้อกลางวัน : สเต็กหรือเนื้อหมู เนื้อวัวย่างก็ได้ กับสลัดผักเขียวและผลไม้
มื้อเย็น : แฮมแผ่นต้มปริมาณเท่าใดก็ได้

วันที่ 3
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับขนมปังโฮลวีต 2 แผ่น
มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 2 ฟอง และสลัดกับแครอท
มื้อเย็น : แฮมแผ่นต้มปริมาณเท่าใดก็ได้

วันที่ 4
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาลกับขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น
มื้อกลางวัน : ไข่ต้ม 1 ฟองกับแครอทต้ม
มื้อเย็น : ผลไม้และโยเกิร์ตรสธรรมชาติ

วันที่ 5
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน : ปลาเผาหรือปลาย่างกับผักต้ม
มื้อเย็น : สเต็ก หรือเนื้อย่างไม่ติดมัน กับสลัดผักสดน้ำใส

วันที่ 6
มื้อเช้า : ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน : ไก่ย่างไม่ติดหนัง
มื้อเย็น : ไข่ต้ม 2 ฟอง กับแครอทต้ม

วันที่ 7
มื้อเช้า : กาแฟหรือชาบีบมะนาว แต่ไม่ใส่น้ำตาล
มื้อกลางวัน : ผลไม้อะไรก็ได้ในปริมาณต้องการ
มื้อเย็น : อะไรก็ได้ทุกอย่างที่อยากทาน ไม่จำกัดปริมาณ

ที่มา : www.ladytip.com